หวยป่วน อีกครั้ง หลังหนุ่มสาวแฟนกันอ้างถูกรางวัลที่หนึ่ง 12 ล้าน แล้วให้แม่ฝ่ายหญิงเอาไปขึ้นเงิน แต่เงียบหายถึงขั้นแจ้งความ และจ้างทนายฟ้องยักยอก ขณะอีกฝั่งปฏิเสธไม่เคยได้รับลอตเตอรี่ ท้าพิสูจน์เส้นทางการเงิน

นางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี

หวยป่วน / เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 46 ม.13 ต.เสาเดียว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ว่าตนเองพร้อมน.ส.สมศรี สายสมคุณ อายุ 21 ปี ลูกสาว และนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี น้องสาว ถูกมารดาของแฟนลูกสาวซึ่งเป็นชาวอำเภอห้วยแถลง นครราชสีมา แจ้งความจับในข้อหายักยอกทรัพย์ สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดวันที่ 1 เม.ย. 2561 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาท พร้อมกับได้รับหมายเรียกจากศาลฐานยักยอกทรัพย์

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านของคู่กรณีปรากฏว่า พบเพียงนางคราม (สงวนนามสกุล) แม่ของคู่กรณีอยู่บ้าน จึงสอบถามจนได้ความว่า ลูกสาวกับลูกชายและลูกสะใภ้ไปทำงานที่จ.จันทบุรีหลายวันแล้ว ส่วนเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 ตนพอจะทราบบ้างแต่ไม่ละเอียดนัก ทราบแต่ว่าเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หลานชายและแฟนสาววัย 15 ปี อ้างว่าได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 เม.ย. 2561 มาจากตัวอ.ห้วยแถลง จำนวน 2 ใบ แล้วถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 เงินรางวัล 12 ล้านบาท

นางคราม กล่าวต่อว่า โดยหลังทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ไปให้นางมานิตย์ แม่ของแฟนสาว ซึ่งอยู่ในอ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ไปขึ้นเงินรางวัลให้ 12 ล้าน และยังอ้างอีกว่าเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา นางมานิตย์จะนำเงินรางวัล 12 ล้านบาทมาให้ แต่พอถึงเวลากลับไม่เอามาให้ เมื่อสอบถามก็พูดบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ทางลูกสาวจึงปรึกษาทนายความและไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ก่อนดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดนางรอง

นางคราม (สงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี แม่ของกรณีคดี หวยป่วน

นางคราม กล่าวอีกว่า ซึ่งตนก็เคยสอบถามหลานชายว่าได้ถูกรางวัลที่ 1 จริงไหม ก็ได้รับการยืนยันว่าถูกรางวัลจริง แต่ส่วนตัวเองและลูกสาวก็ไม่เคยเห็นสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลดังกล่าว โดยหลานชายอ้างว่าได้เขียนชื่อและนามสกุล สลักหลังไว้ที่หลังสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าว ก่อนที่จะให้นางมานิตย์นำไปขึ้นเงินรางวัลให้ หลังรู้ว่าถูกรางวัล

ด้าน นางมานิตย์ เต็มปักษี ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า ตนไม่เคยรู้เรื่องดังกล่าว ลูกสาวกับแฟนก็ไม่เคยเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 มาให้แต่อย่างใด และสามารถท้าพิสูจน์ได้ทั้งเส้นทางการเงิน และความเป็นอยู่ ที่ยังจนเหมือนเดิม

ขณะที่ นางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี น้องสาวนางมานิตย์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเช่นเดียวกัน กล่าวว่า ตนถูกกล่าวหาว่า เป็นคนเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวไปขึ้นเงินรางวัล 12 ล้านบาท เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เอกสารที่ทนายความนำมาจากกองสลาก ระบุชื่อคนขึ้นรางวัลก็ไม่ใช่ชื่อของตน

นางฉวีวรรณ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนเดือดร้อนมาก เนื่องจากหาเช้ากินค่ำ ต้องเดินทางไปศาลและสถานีตำรวจ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยอยากจะให้มีการสอบสวนแฟนของหลานว่าได้ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เม.ย 61 จริงหรือไม่ โดยล่าสุดศาลจังหวัดนางรอง ได้นัดไต่สวนครั้งแรก วันที่ 18 มิ.ย. แต่เลื่อนพิจารณาคดีไต่สวน ไปเป็นวันที่ 23 ก.ค.นี้ ซึ่งตนคงจะต้องเดินทางไปขึ้นศาลอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน