แม่เฒ่า ผวาถูก 2 คนร้ายบุกบ้านจี้ชิงทรัพย์ ขู่เอาชีวิตตนเองและหลานพิการทางสมอง จนต้องยอมให้เงินที่มีติดตัวอยู่เพียง 200 บาท ชาวบ้านผวา หลังเพิ่งเกิดเหตุสาวถูกฉุดข่มขืนในพื้นที่ใกล้เคียง จี้ ตำรวจเร่งตามจับ คาดเป็นวัยรุ่นติดยาเสพติดด้วย
แม่เฒ่า / เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 27 ม.12 บ.เซม ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของคุณยายเขียน มาให้พร้อม อายุ 81 ปี ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ 2 คนร้ายเป็นชาย บุกจี้ชิงทรัพย์และข่มขู่ เอาเงิน 200 บาท ของคุณยายไปกลางวันแสกๆ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะคุณยายกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ถุนบ้านไม้ ซึ่งเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงของตัวเอง
โดยระหว่างเกิดเหตุลูกสาว คือนางสมจิต บุญรอด อายุ 57 ปี ไม่อยู่บ้าน เพราะต้องออกไปรับจ้างทั่วไปเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว มีเพียงลูกชายของคุณยาย ซึ่งสติไม่สมประกอบนอนอยู่บนบ้าน แต่ก็ถูกข่มขู่ไม่ให้ลงมา เพราะคนร้ายจะทำร้ายให้เสียชีวิต แถมคุณยายสายตาพร่ามัว มองเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเจน เมื่อถูกข่มขู่ถึงชีวิต จึงยอมให้เงินซึ่งเป็นเงินก้อนเดียวที่มีอยู่ติดตัว 200 บาท ที่จะเก็บไว้ซื้อกับข้าวและข้าวสารไว้กิน 3 คนแม่ลูก
บ้านพักของแม่เฒ่า ที่คนร้ายจี้ชิงทรัพย์
ยายเขียน กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 11.00 น. ตนอยู่บ้านคนเดียว ส่วนลูกสาวออกไปรับจ้าง โดยคนร้ายมากัน 2 คน ซึ่งตนคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่อบต.ที่เคยมาเยี่ยม แต่ไม่ใช่ โดยคนร้ายมีอาวุธเป็นไม้ท่อน และได้ถามตนว่ามีเงินหรือไม่ ตนตอบกลับไปว่าไม่มี เพราะไม่ได้ทำงานอะไรและแก่แล้ว จึงได้แต่นอนอยู่บ้าน จะมีเงินมาจากไหน คนร้ายจึงขู่ถ้าไม่มีเงินจะทำร้ายให้เสียชีวิต
ยายเขียน กล่าวต่อว่า ทำให้ตนเกิดความกลัวจึงบอกคนร้ายว่ามี 200 บาท จะเอาหรือไม่ ก่อนที่คนร้ายจะหยิบเอาเงินที่ใส่ไว้ในกระปุกยาไป แล้วบอกว่าไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว คนร้ายมากัน 2 คน ผมยาว 1 คน ผมสั้น 1 คน ถึงตนจะมองไม่ชัดแต่ก็พอมองเห็น ตนให้เงินไป 200 บาท ก็ไม่เหลืออะไรเลย
2คนร้ายบุกบ้านจี้เอาเงิน200บาทจากยาย
ยายเขียน กล่าวอีกว่า ซึ่งเงินที่ได้มา ชาวบ้านสงสารก็ให้มาเมื่อช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ และยังไม่ได้ใช้เลยก็มาโดนจี้ชิงทรัพย์ไปก่อน ปกติตนจะอยู่บ้านคนเดียว ลูกสาวออกไปรับจ้าง อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว เพราะชาวบ้านหวาดกลัวมากในขณะนี้
ด้าน นางสมจิตร บุญรอด ลูกสาวของยายเขียน กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะชาวบ้านหวาดกลัวมาก อีกทั้งเหตุลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยมากในบริเวณนี้ เพราะก่อนที่ยายจะโดยจี้ชิงทรัพย์ ก็เกิดเหตุขึ้นที่หมู่บ้านใกล้กัน ครั้งนั้นได้เงินไป 300 บาท และไปก่อเหตุข่มขืนผู้หญิงอีกด้วย ประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายอาจจะมีหลายคนหรือเป็นแก๊ง ทั้งนี้ เพื่อนบ้านพบว่าคนร้ายได้จอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จำสีกับทะเบียนไม่ได้ ไว้หน้าบ้านออกไป
บ้านของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง
“เดือนที่ผ่านมาเจอไป 6-7 รายแล้ว ชาวบ้านต่างหวาดกลัวมาก คนร้ายยังข่มขู่ไว้ว่า อย่าแจ้งตำรวจ หากแจ้งจะมาทำร้ายให้ตาย ขนาดลูกชายอยู่บนบ้านแต่เป็นพิการทางจิต จะลงมาช่วยยังขู่ยายไว้ หากลงมาจะตีให้ตายทั้ง 2 คน โดยใช้ไม้ที่ถือมาขู่ หากไม่ให้เงินจะตีให้ตาย พอคนร้ายได้เงินก็หนีออกไป แต่ไม่รู้ว่าไปทางไหน” ลูกสาว กล่าว
ด้าน นายโชติ ศัตรูพินาศ อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เคยเกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์มาก่อนหน้าแล้วที่หมู่บ้านติดกัน จากนั้นก็ไปข่มขืนชาวบ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งตนได้ยินเขาเล่ามา ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว ช่วงเวลาพลบค่ำ ในปีนี้เพิ่งได้ยิน ส่วนปีที่แล้วก็เกิดขึ้น คนร้ายได้ไปดักจี้เอาเงินชาวบ้านที่ไปจ่ายหนี้ ธกส.ได้เงินไป 5-6 พันบาท ล่าสุดก็เกิดขึ้นกับยาย ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มหวาดกลัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ออกไปทำงานแล้วกลับมาคนเดียว อยากให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจและติดวงจรปิดในจุดที่อันตราย ขอเจ้าหน้าที่ติดตามจับให้ได้โดยเร็ว
แม่เฒ่าถูก 2คนร้ายจี้ชิงทรัพย์
ขณะที่ ร.ต.อ.จตุรงค์ ล้อมนาค รอง สว.สส.สภ.เพี้ยราม ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ได้สอบถามรายละเอียด ซึ่งยายเขียนก็บอกว่า จำได้แค่ว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน คนหนึ่งผมยาว จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม ดูตามสภาพการแล้วคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่และน่าจะติดยาเสพติดด้วย เพราะคนร้ายจริงๆไม่น่าจะมาจี้ชิงทรัพย์คนแก่ที่อยู่บ้านคนเดียวเช่นนี้
ร.ต.อ.จตุรงค์ กล่าวต่อว่า และในพื้นที่นี้ก็มีเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง ขณะที่ทาง จนท.ตำรวจ มีกำลังไม่เพียงพอ จึงได้ประสานมาที่ อบต.นาดี และผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยจัดกำลังออกตรวจตรา เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนตามจับกุมตัวคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดต่อไป
