ทัวร์ศูนย์เหรียญ รูปแบบใหม่ จ้างคนไทยเป็นนอมินี ก่อเหตุเบี้ยวเงิน ผู้ประกอบการทั่วสมุย สูญ 3 ล้านบาท บิ๊กโจ๊กนำทีมสืบจับ 3 กรรมการบริษัท 2 คนไทย 1 จีน ที่รับจ้างเป็นนอมินี ได้เดือนละ 3 หมื่น ขณะที่เจ้าของตัวจริง ไหวตัวเผ่นกลับจีนไปแล้ว

ทัวร์ศูนย์เหรียญ / เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ร่วมกับ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี

ทัวร์ศูนย์เหรียญ / ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกรรมการบริษัทนำเที่ยวชื่อ โรแมนติก สมุย ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะสมุย โดยมีผู้ต้องหาคนไทยชื่อนายสมศักดิ์ บุรุษชาติ นายพัทธ์พล ราชบัณฑิต และนายหลิว เสี่ยวเฟย ชาวจีน ถือวีซ่าเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นนักท่องเที่ยว มาเป็นนอมินีจดทะเบียนเปิดบริษัทนำเที่ยวให้กับนางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของบริษัทชาวจีน

ทัวร์ศูนย์เหรียญ

ตัวการใหญ่

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวกว่า 10 รายบนเกาะสมุย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดนบริษัททัวร์จีนดังกล่าวเบี้ยวค่าจ้างและค่าบริการต่างๆสูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท

จึงได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ประจำพื้นที่เกาะสมุย ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ่อผุด และตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย

ทัวร์ศูนย์เหรียญ

ผู้ประกอบการขอบคุณ

ลักษณะการทำทัวร์ของบริษัททัวร์จีนรายนี้ จะนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้ามาทางสนามบินเกาะสมุย หรือสนามบินสุราษฎร์ธานี และจะว่าจ้างให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่เป็นผู้เสียหายรับหน้าที่ต่อ

ซึ่งแต่ละผู้ประกอบการ จะเสียหายต่างกัน มีทั้งค่าเดินทางกับเรือสปีดโบ๊ท ค่ารถขนส่ง ค่าทัวร์แบบซาฟารี ค่าร้านอาหาร และค่าโรงแรมที่พัก เมื่อถึงกำหนดชำระเงิน

ก็จะจ่ายเงินให้ไม่ครบตามจำนวน ผลัดผ่อนไปเรื่อย จนมียอดใหม่มาสูงเพิ่มขึ้นจนเต็มวงเงินที่จะให้ได้ บริษัททัวร์จีนนี้ ก็จะไปเปิดเครดิตกับบริษัทอื่นๆไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายได้ทั้งหมดกว่า 3 ล้านบาท

ต่อมากลุ่มผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ ทำให้นางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของบริษัทชาวจีน ไหวตัวเดินทางออกนอกประเทศไทย เหลือแต่เพียงผู้ต้องหา 3 คนที่เป็นกรรมการบริษัท แต่ทั้งหมดยังไม่ยอมรับสภาพหนี้ดังกล่าว

กลุ่มผู้เสียหายจึงร่วมตัวกันไปร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ช่วยเร่งตรวจสอบบริษัททัวร์จีนนี้ ที่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ รอง ผบช.ทท. เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่าคนไทย 2 คนที่เป็นกรรมการบริษัท ก่อนหน้านี้เป็นเพียงลูกจ้างได้ค่าจ้างเดือนละประมาณ 1 หมื่นบาท

แต่ปีนี้มาจดทะเบียนเป็นเจ้าของกิจการมูลค่า 50 ล้าน หรือ 100 ล้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบย้อนไปถึงเส้นทางทางการเงิน และการเสียภาษี

 

“การหากินแบบนี้ในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญมีเยอะ เช่นที่ภูเก็ต ถ้าปล่อยไปมาตรฐานความปลอดภัยจะล่มสลายหมด เราจึงจับมือกันกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้สกัดกั้นขบวนการทำธุรกรรมแบบนี้ ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย และนี้ถือเป็นเคสแรก ที่เปลี่ยนจากทัวร์ศูนย์เหรียญ มาจ้างคนไทยเป็นนอมินีเปิดบริษัททัวร์แทน” รอง ผบช.ทท.กล่าว

ส่วนนายสมศักดิ์ บุรุษชาติ ผู้ต้องหาให้การรับว่ารู้จักกับนางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของบริษัทชาวจีน มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 ถูกติดต่อว่าจ้างให้มาเป็นกรรมการบริษัท โรแมนติก สมุย จำกัด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ได้ค่าจ้างเป็นค่าตำแหน่งเดือนละ 3 หมื่นบาท และจะมีเงินปันผลปลายปี

ที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าจะมาเป็นนอมินีเปิดบริษัท รู้แต่เพียงว่าเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทโดยที่ไม่ต้องมีลงเงินลงทุน เป็นผู้บริหารมีเงินเดือนมีเงินปันผลปลายปีเท่านั้น

ส่วนหนี้สินตนเองรับรู้แต่ไม่รู้จะใช้หนี้ยังไง เพราะเงินรายได้ของบริษัททุกบาท จะถูกโอนไปที่เจ้าของบริษัท ตนเองพยายามติดต่อไปหานางฉางเหยียนแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา

ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีกับทั้ง 3 ผู้ต้องหาว่า ฐานรับจ้างเป็นนอมินี เปิดบริษัทนำเที่ยว กระทำแทนโดยผิดเงื่อนไข พร้อมออกหมายจับนางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของชาวจีน เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่ตกเป็นผู้เสียหาย นำกระเช้าดอกไม้มามอบให้กับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เพื่อขอขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ที่จับกุมผู้ต้องหา บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการ ทำให้รู้สึกอุ่นใจ และมั้นใจในการทำธุรกิจต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน