กรณีนักท่องเที่ยวถูกพิษแมงกะพรุนกล่องเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา เข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด ซึ่งได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง และนำตัวส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลตราด ทางอำเภอเกาะกูดได้ประสานงานกับทางอบต.เกาะหมาก ให้ดำเนินการตรวจสอบและสำรวจจำนวนแมงกะพรุนกล่อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายพีระวัฒน์ วังรัตน์กุล นายอำเภอเกาะกูด จ.ตราด ลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยร่วมกับทาง เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ ตะวันออก เข้าสำรวจและตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นบริเวณพื้นที่เกิดเหตุใน ด้วยการลากอวนทับตลิ่งและอวนลอยผิวน้ำที่ระดับน้ำลึกประมาณ 1 เมตร ขนานชายฝั่งเป็นระยะทาง 100 เมตร ได้แก่ เลซี่เดย์รีสอร์ท ไอส์แลนด์ฮัทรีสอร์ท และมังกี้ไอส์แลนด์รีสอร์ท
“การสำรวจพบตัวอย่างแมงกะพรุนกล่อง Chironex sp.C จำนวน 3 ตัว ตามลำดับ ซึ่งแมงกะพรุนกล่องชนิดดังกล่าวมีพิษร้ายแรง นอกจากนั้นยังพบแมงกะพรุนกล่อง Copula sivickisi บริเวณไอส์แลนด์ฮัทรีสอร์ท จำนวน 275 ตัว และมังกี้ไอส์แลนด์รีสอร์ท จำนวน 21 ตัว ซึ่งชนิดดังกล่าวยังไม่มีรายงานความเป็นพิษนอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ ยังได้รับตัวอย่างแมงกะพรุนกล่องชนิด Chironex sp.C ที่เลซี่เดย์รีสอร์ท เก็บไว้ให้จำนวน 5 ตัว และที่ไอส์แลนด์ฮัทรีสอร์ท จำนวน 3 ตัว” นายพีระวัฒน์ กล่าว
นายอำเภอเกาะกูด กล่าวอีกว่า ได้ประสานไปยังผู้ประกอบการรีสอร์ทเกาะหมากแล้ว ให้แจ้งไปยังนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเกาะหมาก ที่จะเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้ต้องระมัดระวังแมงกะพรุนกล่องด้วย ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวได้รับพิษควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เนื่องจากแมงกะพรุนกล่องมีพิษร้ายแรง
ด้าน นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด กล่าวว่า แมงกะพรุนกล่องอาศัยอยู่ในทะเลอ่าวไทยจำนวนมาก และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวที่มาเกาะกูดก็ได้รับพิษจากแมงกะพรุนกล่องเช่นกัน แต่โชคดีที่มีการใช้น้ำส้มสายชูแก้พิษในเบื้องต้น จึงไม่ได้รับอันตรายมากนัก ซึ่งต้องแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่จะมาเกาะกูดและเกาะหมากต้องระมัดระวังตัวด้วย
ช่วงบ่ายวันนี้มีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 2 ราย เป็นเด็ก อายุ 3 ปี และ 5 ปี ถูกพิษแมงกะพรุนกล่องบริเวณหน้าหาดเกาะกูด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลเกาะกูด อาการปลอดภัย ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ ทีมงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล จะเดินทางสำรวจแมงกะพรุนกล่องที่หาดทรายแดงและหาดบางเบ้า ส่วนตนเองจะเข้าพบทีมสำรวจเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ส่วนการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น จะเร่งจัดสรรงบประมาณจัดซื้ออวน/ตาข่าย และจัดเวรยามเฝ้าระวัง ทีมงานแจ้งเตือนภัยนักท่องเที่ยว ตลอดจนอบรมตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรม/รีสอร์ท ให้เห็นความสำคัญของกรณีดังกล่าว
