สรรพากร จ.พิจิตร โต้ข่าวลือ เก็บภาษีชาวนารายย่อย ย้ำ
กฎหมายเก็บเฉพาะเชิงธุรกิจเท่านั้น

สรรพากร – วันที่ 6 ส.ค. นายสุเทพ ชาญณรงค์ สรรพากรพื้นที่พิจิตร กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.พิจิตร ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ซึ่งในแต่ละปีมีผลผลิตเป็นข้าวเปลือกนับล้านตัน แต่ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีไปปล่อยข่าวว่า รัฐบาล โดยกรมสรรพากร จะเก็บภาษีเงินได้จากชาวนา ที่ทำนาปลูกข้าวด้วยตนเองและครอบครัวแล้วมีรายได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวสรรพกร พิจิตร อยากจะชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องที่มีพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 629) พ.ศ.2560 ในมาตรา 8 เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) ในหลายหัวข้อที่

ก่อนหน้านี้กฎหมายได้กำหนดยอมให้เลือกหักค่าใช้จ่าย โดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้ ก.ให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร (หักตามความเป็นจริงของกิจการ) ซึ่งต้องมีใบเสร็จเป็นหลักฐาน หรือ ข.ให้หักค่าใช้จ่ายเหมาได้ 80% “ส่วนตั้งแต่ปีภาษี 2560 ก็กำหนดให้เลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธีเหมือนเดิม แต่ค่าใช้จ่ายเหมาให้หักเหมาได้ 60% เท่านั้น
สรรพากร

นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าพิเคราะห์จากเจตนาของกฎหมายฉบับนี้ ก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของผู้มีรายได้ทั้งรายเล็ก และรายใหญ่เพื่อจะได้จัดเก็บภาษี นำเงินมาพัฒนาประเทศชาติ รวมถึงการบริการสาธารณะ สาธารณูปโภค ความเป็นอยู่ของคนในชาติ ดังนั้นเรื่องการเสียภาษีในอนาคตของผู้ประกอบการ ที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกา 2560 ตามมาตรา 8 ที่มี 43 รายการ นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมในเชิงธุรกิจเท่านั้น

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ดังนั้นจึงขอชี้แจงถึงพี่น้องเกษตรกรชาวนา ว่าด้วย เรื่องการยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้จากชาวนา ที่มีบัญญัติไว้ตามประมวลรัษฎากร ที่เขียนไว้เมื่อปี พ.ศ.2496 ว่า เงินได้ของชาวนาที่ได้จากการขายข้าว อันเกิดจากการกสิกรรมที่ตน และหรือครอบครัวได้ทำเอง (ไม่ใช่นายทุนหรือเจ้าของฟาร์มที่ไม่ได้ทำเอง) ไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าหากมีการทำนา ปลูกข้าว หรือขายเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือทำธุรกิจข้าวถุงขายในรูปแบบฟาร์มขนาดใหญ่หรือในรูปแบบบริษัทที่เป็นนิติบุคคลใช้คนงาน ใช้เครื่องจักร แบบนี้ต้องเสียภาษีเงินได้ ดังนั้นยืนยันว่า สรรพากรพื้นที่จ.พิจิตร ยังไม่เคยเรียกเก็บภาษีจากชาวนาที่ทำนาปลูกข้าวด้วยตนเองและหรือครอบครัวเลยแม้แต่รายเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน