หลานสาว17 นอนเฝ้าบ้านลำพัง ย่าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสียบปลั๊กพัดลมทิ้งไว้ ไฟลุกจากที่นอนย่า ไหม้บ้านวอดทั้งหลัง หลานหนีตายระทึก วิ่งเรียกญาติช่วยดับไฟวุ่นแต่ไม่ทัน สูญกว่า 4 แสนบาท คาดไฟฟ้าลัดวงจร

ไฟลุกจากที่นอนย่า / เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 11 ส.ค. พ.ต.ท.ภูมิรพี พราภูมิ สารวัตรเวร สภ.หนองฉาง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 12/4 ม.3 บ้านคลองค่าย ต.อุทัยเก่า อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของตำบลอุทัยเก่า เทศบาลหนองฉาง และกู้ภัยอุทัยธานี (จุดหนองฉาง)

ไฟลุกจากที่นอนย่าไหม้บ้านวอดทั้งหลัง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังเร่งช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้บ้านจนเสียหายทั้งหลัง โดยบ้านหลังดังกล่าว ทราบว่าเป็นบ้านของนางเฉลียว ศิริโยธา

ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้านยายเฉลียว

จากการสอบถาม น.ส.ชลธิชา ศิริโยธา อายุ 17 ปี หลานสาวของนางเฉลียวที่อยู่ขณะเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ต้นเพลิงเกิดจากห้องนอนของนางเฉลียวซึ่งเป็นย่า โดยคืนเกิดเหตุย่าได้นอนรับการรักษาตัวจากอาการป่วยด้วยโรคเบาหวานอยู่ที่โรงพยาบาล และมีตนนอนเฝ้าบ้านเพียงคนเดียว ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นอย่างรวด

เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 30นาทีควบคุมเพลิงไว้ได้

น.ส.ชลธิชา กล่าวต่อว่า ตนจึงวิ่งไปตะโกนเรียกญาติที่อยู่ใกล้ๆ ให้มาช่วยกันดับไฟ หลังจากนั้น ทางญาติก็แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มาช่วยแต่ก็ไม่ทันไฟได้ลุกไหม้บ้านทั้งหลังแล้ว ทั้งนี้ ก่อนนอนตนได้เปิดพัดลมไว้ตัวเดียว แต่ก็ไม่ทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้มาจากที่นอนของย่า ที่ผ่านมา ย่ามักจะเสียบปลั๊กไฟพัดลมทิ้งไว้ตลอด

ภายหลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่และครอบครัวได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ด้าน พ.ต.ท.ภูมิรพี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุมาจากไฟฟ้ารัดวงจร ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้งหนึ่ง และจาการสอบถามการเสียหายไฟไหม้ทราบว่ามีมูลค่ากว่า 4 แสนบาท

หลานสาว17 เข้าดูบ้านภายหลังเกิดเหตุไฟไหม้