เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในเขตอำเภอเบตง จ.ยะลา นำสมุดบัญชีเงินฝากและบัตรเอทีเอ็ม มาปรับและกดเช็กยอดเงินโอนช่วยเหลือตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาเบตง อย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อปรับเช็คยอดต่างก็ดีใจ เมื่อมียอดเงินโอนเข้าบัญชีรายละ 1,500 บาท โดยบางรายที่มีบัตรเอทีเอ็ม ก็กดถอนเงินสดเพื่อนำไปใช้จ่ายทันที ขณะบางรายต่างก็ผิดหวังเมื่อไม่มียอดเงินโอนเข้าบัญชีตามที่คาดหวังไว้ เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ไปขอตรวจสอบคุณสมบัติที่สรรพากรพื้นที่ ว่าเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ เช่น มีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือเป็นผู้เสียภาษีหรือไม่
น.ส.ปรียารัฐ ชื่นอยู่ ผจก.ธกส.สาขาเบตง เปิดเผยว่า ยังพบปัญหาผู้มีรายได้น้อยอีก 2,270 รายที่ลงทะเบียนไว้ แต่ยังไม่ได้เปิดบัญชีเงินฝาก บางราย ชื่อ สุกลผิด จึงได้เร่งรัดให้ไปเปิดบัญชีและแก้ไขให้ถูกต้องกับธนาคารที่แจ้งลงทะเบียนไว้ เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ภายในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ และรอรับเงินโอนช่วยเหลือตามโครงการดังกล่าว โดยจากข้อมูลของธกส.สาขาเบตง มีผู้ลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้นจำนวน 4,279 ราย คิดเป็นยอดเงินโอนรวมกว่า 4,147,500 บาท จ่ายไปแล้ว 2,009 ราย
นางจัทนี ซียง อายุ 29 ปี กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป วันนี้นำบัตรเอทีเอ็มมาปรับเช็กยอดเงินโอนช่วยเหลือตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ หลังทราบว่ากระทรวงการคลังทยอยโอนเงินเข้าบัญชีให้กับผู้มีรายได้น้อยแล้ว ก็รีบมาเช็กยอดเงินทันที เพราะจะนำเงินไปซื้อเสื้อผ้าให้ลูก เพื่อใส่ในวันขึ้นปีใหม่ และใช้จ่ายภายในครอบครัว จึงขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
ขณะที่บรรดาร้านจำหน่ายเสื้อผ้า และร้านค้าทั่วไป คึกคักเป็นพิเศษ น.ส.อัจฉรา ทิมพวงทอง อายุ 67 ปี แม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้า ห้างนิวเซ็นต์เตอร์ กล่าวว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทำให้ค้าขายไม่ค่อยได้เหมือนเมื่อก่อนที่ ราคายางพาราราคาดี แต่หลังจากที่รัฐบาลมีโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมีการโอนเงินให้กับผู้มีรายได้น้อย ก็ทำให้มีการจับจ่ายในภาคครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น ยังคงเหลือไม่กี่วันก็จะถึงวันขึ้นปีใหม่ บรรดาชาวสวนยางพารา ช่วงนี้ฝนตกบ่อย อีกทั้งราคายางพารามีราคาไม่ดีนัก จึงเป็นโอกาสดีในช่วงนี้ก่อนปีใหม่ที่คนมีรายได้น้อยนำเงินจากโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ มาจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าและ ของใช้ ให้กับลูกหลานได้สวมใส่ช่วงปีใหม่ สามารถช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวที่ประสบปัญหาเรื่องรายได้ตกต่ำไปอีกช่วงหนึ่งได้
