ปั้นจั่นสยอง โค่นทับหนุ่มดับคาโครงเหล็ก หลังขึ้นคลาดน็อตเตรียมเคลื่อนย้ายไปอีกฝั่ง ก่อนพลาดโครงเหล็กโค่นลงมาทับ เพื่อนอีกคนบาดเจ็บไปด้วย ขณะที่ภรรยาร่ำไห้แทบขาดใจ
ปั้นจั่นสยอง วันที่ 13 ส.ค. ร.ต.อ.ทวีสิทธิ์ ชูศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีปั้นจั่นล้มทับคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณพื้นที่ก่อสร้างในหมู่บ้านวิเศษสุขนคร ซอยประชาอุทิศ 90 โครงการ 16 หมู่ 2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ฤทธาคณานนท์ ผกก.สภ.สาขลา พ.ต.ท.ราม รศหอม รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท.ประยูร ปัตตุลี สว.สส. นายวรพจน์ ศรีใย ปลัดอำเภอฝ่ายความั่นคง อ.พระสมุทรเจดีย์ นายมานพ เติมบุญ กำนัน ต.บ้านคลองสวน รถกู้ชีพ อบต.บ้านคลองสวน แพทย์เวร ร.พ.พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเข้าไปในหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ด้านซ้ายมือพบเป็นลานดินกว้างประมาณ 8-10 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างหมู่บ้านเพิ่มเติม บริเวณทางเขาลานดินพบปั้นจั่นแบบโครงเหล็กขนาดความสูง 12 เมตร ตั้งอยู่ในสภาพเอนล้มลงมาทางขวาค้างอยู่กลางอากาศ ใต้ปั้นจั่นพบเครื่องยนต์ที่ติดตั้งวางอยู่ โดยมีลูกตุ้มเหล็กล้มตะแคลงพิงเครื่อง กลางปั้นจั่นสูงจากฐานขึ้นไปประมาณ 6 เมตร พบศพนายไสว ศรีมานพ อายุ 39 ปี ชาว จ.ยโสธร ถูกโครงปั้นจั่นหนีบบริเวณลำตัวจนยุบ ศีรษะเปิดห้อยโตงเตงคาเหล็ก ส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ทราบชื่อคือ นายสุเทพ เทพพันธ์ อายุ 42 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าแข้งขวาและแขนขวา
จากการสอบถาม นางวิลาวัลย์ ศรีมานพ อายุ 42 ปี ภรรยาของผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ปั้นจั่นดังกล่าวได้นำมาจากผู้รับเหมาใน จ.นครปฐม ก่อนที่จะมาตั้งบริเวณนี้เพื่อตอเสาเข็มสร้างหมู่บ้าน โดยมาตั้งได้นานหลายเดือนแล้ว กระทั่งในวันนี้ตนพร้อมผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตได้รับแจ้งจากผู้รับเหมาให้เคลื่อนปั้นจั่นไปยังอีกฝากหนึ่ง ระหว่างที่เคลื่อนย้ายมาถึงเสาไฟฟ้า ผู้ตายได้ปืนขึ้นไปบริเวณกลางโครงปั้นจั่นเพื่อถอดน็อตออกจากโครง แล้วให้ผู้บาดเจ็บที่อยู่ด้านล่างเป็นคนเคลื่อนตัวโครงปั้นจั่นไปข้างหน้า โดยใช้ไฮโดลิกส์เป็นตัวดึง แต่แล้วจู่ๆ โครงปั้นจั่นที่อยู่ด้านบนสุดเกิดโค่นหล่นลงมาทับร่างผู้ตาย ก่อนที่ลูกตุ้มจะกระแทกขานายสุเทพ จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่า ปั้นจั่นดังกล่าวมีน้ำหนักมากเมื่อผู้ตายปีนขึ้นไปถอดน็อตบริเวณกลางโครง ทำให้โครงรับน้ำหนักไม่ไหวโค่นล้มลงมาทับจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ต้องเชิญผู้ได้รับบาดเจ็บและพยานในที่เกิดเหตุไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฏหมาย ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป