จากกรณีชาวบ้านแห่ร่อนทองในคลองทองที่บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังมีคนร่อนได้ทองก้อนหนัก 2 บาท โดยนางจิดาภา จิตรณรงค์ อายุ 39 ปี เปิดเผยว่า หลังน้ำลดได้นำอุปกรณ์ร่อนทองก็คือ เลียง เสียม และกระป๋อง ไปลงร่อนทองในคลองทองได้พบทองคำ 1 ก้อน จึงนำไปให้ร้านทองชั่งดู มีน้ำหนัก 2 บาทกว่า ทางร้านทองขอซื้อ 1 แสนแต่ยังไม่ขาย เพราะต้องการเก็บไว้ สภาวัฒนธรรมบางสะพานชี้เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตชาวต.ร่อนทอง เผยเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมากว่า 200 ปี หลังมีน้ำป่าชะหน้าดิน จะลงคลองไปร่อนทองกัน ชี้ทองบางสะพานเป็นทองคำที่ดีที่สุดในประเทศ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 15 ธ.ค. สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี หลังน้ำเทือกเขาตราวศรีไหลเข้าท่วมหนักในอำเภอบางสะพานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หลายวัน เมื่อน้ำแห้งชาวบ้านพบทองคำบริสุทธิ์ในคลองที่บางสะพาน น้ำหนักกว่า 2 บาท ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่แห่ไปร่อนทองกันตลอดทั้งวัน หลังจากเป็นข่าวแพร่ออกไป ทำให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเดินทางไป ที่หมู่บ้านป่าร่อน ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวนมากส่วนหนึ่งเดินทางไปชมการร่อนของชาวบ้าน และส่วนหนึ่งได้ร่วมร่อนหาทองตามลำคลอง
นายบัวขาว มิ่งเมือง อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 126/2 ม.6 ต.ร่อนทอง เปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวมาถามบ่อยเพื่อจะขอไปชมการร่อนทอง จึงได้เปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวมาชมวิถีชีวิตการร่อนทองของชาวบ้าน ก็จะพาไปชมการขุดหาทองอยู่ในคลองทอง ซึ่งมีชาวบ้านจะหากันเป็นกลุ่มๆละ 5-8 คน ตามแนวลำคลังที่คดไปคดมา ระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร บางกลุ่มก็มาขอร่อนทองกันเอง ก็จะจัดเลียงซึ่งทำจากไม้ใยด้ายลักษณะคล้ายหมวกเวียดนาม ให้ไปพร้อมทั้งอุปกรณ์ในการตักดิน และสอนวิธีการร่อนแยกหินออกเพื่อหาทอง โดยคิดค่าอุปกรณ์ชุดละ 100 บาท พร้อมนำไปขุดหาในจุดต่างๆ ซึ่งก็ได้ทองกลับไปกันทุกคน อาจจะชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่เท่ากัน แต่ก็เกิดความประทับใจในการได้มาสัมผัสชีวิตอยู่กับธรรมชาติและได้ทองดีกลับไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ต่อมานายบุญฤทธิ์ แดงรักษา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ร่อนทอง พร้อมด้วย นายกฤษดา หมวดน้อย คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมบางสะพาน ได้เดินทางไปสำรวจตามลำคลองเพื่อดูแลประชาชนที่เดินทางมาร่อนทอง ซึ่งพบว่ายังมีมีชาวบ้านมาร่อนทองกันหลายจุดด้วยกัน อีกทั้งยังพบว่า พืชผลการเกษตรบางส่วนเช่นต้นมะพร้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหายเนื่องจากน้ำได้กัดเซะเอาหน้าดินหายไป จึงทำให้เป็นผืนน้ำและมีทองโผล่ขึ้นมาหลังจากถูกดินทับถมมานาน
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือเอาทองเนื้อเก้าขึ้นเป็นคำขวัญแรกของจังหวัดเนื่องจากมีประวัติศาสตร์มานาน คำว่าทองเนื้อเก้าคือเนื้อ 99 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่ต้องผ่านการถลุง เป็นแร่ทองนพเก้าทองที่เจอในธรรมชาติ และเป็นทองคำล้วนๆ และจุดที่พบทองมากที่สุดในคลองก็คือคลองพันลำ ที่เชื่อกันว่าในอดีต มีนักขุดทองเดินทางด้วยเรือเข้ามาหาทองในคลองแห่งนี้จำนวนมาก จึงเรียกกันว่าคลองพันลำ
“ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นคลองทองเนื่องจากมีทองอยู่มากเลยเรียกให้เข้าใจง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้บริหาร อบต.ร่อนทอง มีแนวคิดจะเปิดเป็นแห่งท่องเที่ยว โดยขณะนี้มีผู้บริจาคที่ดินให้ที่ดิน 1 ไร่เศษ อยู่ติดถนนริมคลองซึ่งจะเป็นสถานที่รองรับนักท่องเที่ยว ลานวัฒนธรรม ร้านค้าชุมชน ลานจอดรถอำนวยความสะดวกสบายและนักท่องเที่ยว และในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ เตรียมติดตั้งป้ายทางเข้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาตามเส้นทางเพื่อมาชมวิถีชีวิตการร่อนทองหรือมาร่อนทองกันได้”
นางจิดาภา จิตรณรงค์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 13/1 ม.6 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน ที่ได้พบทองคำ 1 ก้อน น้ำหนัก 2 บาทกว่า เปิดเผยว่า มีผู้สนใจเดินทางมาขอซื้อในราคา 1 แสนบาท แต่ตนยังไม่ขายเพราะต้องการเก็บไว้ก่อน เพราะตั้งแต่ไปร่อนทองมา ครั้งนี้ได้ก้อนใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ดีในขณะนี้หากมีเวลาว่างตนเองก็ยังคงลงร่อนทองตามปกติ เก็บเล็กเก็บน้อยเป็นรายได้เสริมจากอาชีพอื่น
นายวิษย์ศิวัช เบ้าศรี อายุ 25 ปี ชาวบ้านร่อนทองที่เก็บสะสมทองที่ตนเองร่อนไว้ในระยะ 3 ปี เป็นจำนวนมาก เปิดเผยว่า ครอบครัวมีอาชีพร่อนทอง หลังจากเรียนจบตนเองก็กลับมาช่วยร่อนทอง และได้เก็บทองส่วนหนึ่งที่มีลักษณะดีเช่น ลักษณะคล้ายช้าง หรือเป็นก้อนที่บ่งบอกว่าเป็นทองจากธรรมชาติ บางส่วนนำไปทำเป็นเครื่องประดับ แต่ก็เก็บสะสมไว้ และตนเองต้องการที่จะประชาสัมพันธ์สิ่งดีๆในบาลสะพาน จึงได้สร้างเพจชื่อ ทองบางสะพาน และได้นำภาพกิจกรรมต่างๆลงไว้ในเพจ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบว่า จุดต้นกำเนิดทองดีที่สุดอยู่ที่บางสะพาน