โร่มอบตัว! โจ๋ 16 กับ 11 งัดบ้านพ่อค้าผลไม้ หนีกบดานทุ่งนา เผยทนลำบากไม่ไหว
จากกรณีพ่อค้าผลไม้ส่งในตลาดวารินเจริญศรี อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นำภาพเยาวชนชาย 2 คน งัดหน้าต่างห้องนอนปีนเข้าไปขโมยทรัพย์สินถึง 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดคนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินอะไร เพราะเจอกล้องวงจรปิดที่เจ้าของบ้านนำมาติดตั้ง ทำให้ได้ภาพใบหน้าของ 2 เยาวชนไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งชุดสืบสวนได้ติดตามกดดันไปที่บ้านของ 2 เยาวชน จนทราบว่าหลบหนีไปนอนอยู่กลางทุ่งนา ก่อนทนความลำบากไม่ไหวให้ญาติพามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ญาติของเยาวชนชายอายุ 11 ปี และ 16 ปี ชาว อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ที่เข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้านของนายมนตรี คำล้าน อายุ 34 ปี พ่อค้าขายผลไม้ในตลาดค้าส่งวารินเจริญศรี ที่บ้านเลขที่ 152 บ้านหนองขาม หมู่ 10 ต.โนนโหนน อ.วารินชำราบ โดยเหตุเกิดตอนสายของวันที่ 13 ส.ค. เข้าพบกับ พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.วารินชำราบ เพื่อขอมอบตัวรับโทษที่ทำขึ้น
ด.ช.เอ อายุ 11 ปี กล่าวว่า เมื่อปลายเดือน ก.ค. นายบี เพื่อนรุ่นพี่ ที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน มาชวนให้ไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าในตัว อ.วารินชำราบ แต่ระหว่างทางนายบีพาแวะเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของนายมนตรี โดยการงัดเข้าไปทางหน้าต่างห้องนอน และได้กระปุกออมสินมีเงินประมาณ 2,000 บาท ส่วนทองคำหนักครึ่งสลึงไม่ทราบว่านายบีเอามาด้วย
ด.ช.เอ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้แบ่งเงินกันไปเล่นเกมและช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าจนเงินหมด กระทั่งวันที่ 13 ส.ค. นายบีมาชวนไปเล่นเกมและเที่ยวห้างสรรพสินค้าอีก แต่เมื่อขับรถผ่านบ้านหลังเดิม นายบีก็พาแวะเข้าไปงัดบ้านหลังนี้อีก ตนพยายามขัดขืน เพราะกลัวถูกจับได้ เนื่องจากคิดว่าเจ้าของอาจมีการติดกล้องวงจรปิดจับภาพความเคลื่อนไหว ซึ่งก็จริง
ด.ช.เอ กล่าวอีกว่า เมื่อปีนเข้าไปในห้องนอนก็รื้อค้น แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไร ระหว่างเดินออกจากห้องนอนมาที่ห้องโถงกลางบ้าน ก็พบกล้องวงจรปิดจับภาพใบหน้าของตนได้อย่างชัดเจน จึงวิ่งไปบอกนายบี ซึ่งนายบีก็หาเสื้อมาใช้ปิดบังใบหน้า ย้อนเข้าไปหาทรัพย์สินบริเวณตู้โชว์กลางห้องโถง แต่ไม่ได้อะไร ขณะนั้นตนรู้สึกกลัวมาก จึงชวนนายบีออกจากบ้านของผู้เสียหาย
2 โจ๋งัดบ้านพ่อค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสายวานนี้ เพื่อนบ้านเห็นภาพที่เจ้าของบ้านนำไปลงเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก ทำให้นายบีคาดว่า อีกไม่นานเจ้าหน้าที่ต้องตามมาหาที่บ้านแน่นอน จึงชักชวนให้ ด.ช.เอ หลบหนีไปนอนอยู่กลางทุ่งนา มีเพียงปลาไหลตัวเดียวเป็นอาหารแบ่งกันกิน จนได้รับแจ้งจากญาติว่า มีเจ้าหน้าที่เข้ามาหาที่บ้าน พร้อมยึดเอาเสื้อผ้าที่ทั้งสองใช้สวมใส่ในวันเกิดเหตุเป็นหลักฐานติดตามจับตัว และบอกให้รีบเข้ามอบตัว แล้วจะได้รับความเมตตาจากศาล
แต่ด้วยความลำบากและไม่รู้จะหลบไปอยู่ที่ไหน ด.ช.เอ และนายบี จึงบอกให้ญาติพามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมรับทราบข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี ส่งตัวไปพักในสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนอุบลราชธานี
ซึ่งระหว่างเยาวชนทั้งสองเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ นายมนตรี คำล้าน อายุ 34 ปี เจ้าทรัพย์ก็ได้มาพบและพูดคุยตักเตือนเยาวชนทั้งสองว่า ไม่ควรก่อเหตุทำนองนี้อีก เพราะจะเสียอนาคต สำหรับนายบี ก่อนหน้านี้เคยถูกจับดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว และอยู่ระหว่างการประกันตัว รอการตัดสินของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี แต่ก็มาชวนเพื่อนรุ่นน้องก่อเหตุขึ้นอีก
