แฉซ้ำ ป้าร้านของชำ ซื้อน้ำข้าวหมากแช่กินเองขวดเดียว โดนจับปรับ 5 หมื่น!

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระแสข่าวยายขายข้าวหมากถูกจับปรับ 10,000 บาท และยังเป็นข้อกังขาของหลายหน่วยงานและประชาชนทั่วไปว่า น้ำข้าวหมาก ผิดหรือไม่ผิด จนมีมีการวิจารณ์กันทางโลกออนไลน์กันเป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุดมีนางประเสริฐ วามไธสง อายุ 52 ปี แม่ค้าขายของชำในเขตเทศบาล ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เมื่อกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ตรวจสอบในร้านว่า มีใบอนุญาตขายสินค้าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตนมีใบอนุญาตแสดงทุกอย่าง จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูตู้เย็น แล้วเห็นขวดใส่น้ำข้าวหมาก ซึ่งได้ซื้อมาจากตลาดเช้าในจังหวัด 1 ถุง และนำมากรอกใส่ขวดน้ำเปล่าไว้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ถามว่า “นี่ขวดอะไร” ก็ได้ตอบไปตามความจริงว่าซื้อน้ำข้าวหมากมากินเล่น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกจากร้านไป อีก 2 วัน ต่อมา จ้าหน้าที่หญิงคนนั้นมาพร้อมสรรพสามิตอีก 3 คน เข้ามาในร้านแล้วไปเปิดตู้เย็น นำขวดน้ำข้าวหมากมา พร้อมกับแจ้งว่าตนถูกจับที่มีน้ำข้าวหมากไว้ในครอบครอง โดยได้ทำการยึดเอาน้ำข้าวหมากไปพร้อมกับแจ้งว่าจะต้องเสียค่าปรับ 50,000 บาท ตนตกใจทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าจะมีโทษรุนแรงขนาดนั้น และเจ้าหน้าที่ได้ลดราคาค่าปรับเหลือ 10,000 บาท ก่อนเจ้าหน้าที่จะลงบันทึกแล้วนัดให้ไปจ่ายค่าปรับที่สรรพสามิตจังหวัดบุรีรัมย์ตามวันเวลาที่กำหนด

“เราขายของชำได้กำไรวันละไม่กี่บาท ไม่มีเงินที่จะไปเสีย ผ่านไปอีก 1 วัน เจ้าหน้าที่ก็โทรศัพท์เร่งให้ไปชำระค่าปรับ พร้อมขู่หากไม่จ่ายจะดำเนินคดี ฉันไม่มีเงินพอจึงร้องขอให้ผู้กว้างขวางในพื้นที่ช่วยเจรจาให้ สรรพสามิตจึงลดให้เหลือ 5,000 บาท แต่เงินจำนวน 5,000 บาท ตนก็ยังหาไม่ทัน ผ่านไปอีก 1 วันเจ้าหน้าที่โทรกลับมาอีกว่า

ถ้าไม่ไปชำระค่าปรับจะขึ้นเป็น 10,000 บาท จึงรีบหาเงินไปชำระค่าปรับ ส่วนตัวคิดว่าถึงคราวซวย และไม่คิดว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพราะซื้อมาจากตลาดสดที่วางขายกันเกลื่อน พอมารู้ว่าไม่น่าจะผิดกฎหมาย คิดว่านี่คือการเสียรู้หรือเปล่าที่ถูกเจ้าหน้าที่กระทำคล้ายเหมือนเอาข้อกฎหมายมาข่มขู่เอาค่าปรับ”