ผู้จัดปาร์ตี้ริมสระให้ปากคำตร. รับจัดมาแล้ว 7 ครั้ง ทั่วประเทศ ไม่รู้มีคนมีเซ็กซ์ในสระ

ตร.เรียกสอบออแกไนซ์ชาวออสซี่ที่จัดปาร์ตี้ฉาวกลางสระน้ำโรงแรมดังพัทยา รับจัดปาร์ตี้แบบนี้มาแล้ว 7 ครั้ง จ่อเรียกต่างชาติในคลิปสอบ เบื้องต้นคงมีความผิดในฐานะกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลส่วนผู้โพสต์เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากกรณีมีการแชร์คลิปวีดีโอเกี่ยวกับงานปาร์ตี้สระน้ำที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา โดยภายในงานมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยมีการกระทำส่อในลักษณะอนาจารคล้ายการมีเพศสัมพันธ์กันในสระว่ายน้ำ ทำให้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสมของกิจกรรมดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว รร.ดังพัทยาโดน! ปล่อยจัด ปาร์ตี้ริมสระ หนุ่มสาวนัวเนีย-ร่วมรักกลางสระน้ำ (คลิป)

ออแกไนซ์ชาวออสเตรเลียเข้าให้ปากคำกับตร.

ปาร์ตี้ฉาว/ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายโคราน มาโลนี สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้จัดงาน “คัลเลอร์ บีชไซต์ ปาร์ตี้” ดังกล่าว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อชี้แจงข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่

ภาพคลิปฉาว

นายโคราน ให้การว่า เปิดบริษัททำออแกไนซ์จัดงานทั่วประเทศ และดำเนินการจัดงานลักษณะนี้มาแล้ว 7 ครั้ง โดยที่เมืองพัทยาจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ที่เน้นการจัดงานในสระว่ายน้ำริมชายหาด รวมทั้งเวทีเต้นกลางสระว่ายน้ำที่ไม่เหมือนที่ไหน ดีไซน์เวทีและแสงสีทันสมัย โดยทีม LED ชั้นนำของประเทศ พร้อมดีเจและศิลปินชื่อดัง

ส่วนนักท่องเที่ยวที่เป็นข่าวนั้น เพิ่งมาทราบหลังจากมีการเผยแพร่ภาพลงในโลกโซเชียล ซึ่งจริงๆแล้วในงานก็มีกฎระเบียบ ที่ไม่อนุญาตให้กระทำอนาจารลักษณะนี้อยู่แล้ว และก็จัดเจ้าหน้าที่รปภ.ดูแลตลอดงาน แต่คงเป็นช่วงเวลาที่หลุดสายตาไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม พร้อมจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ทั้งหลักฐานการจัดงานและเอกสารต่างๆ ขณะที่นักท่องเที่ยวรายที่ก่อเหตุพยายามติดต่อไปแล้ว แต่พบว่าปิดโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้

พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า เบื้องต้นคงต้องสอบปากผู้จัดงาน ทางโรงแรม พนักงาน และพยานทั้งหมด เพื่อดูว่าการกระทำดังกล่าวเป็นมาอย่างไร โดยในส่วนของนายโครานนั้น คงต้องดูทั้งรูปแบบการจัดงาน การดูแลภายในงาน เรื่องของเวิร์คเพอร์มิต การขออนุญาตใช้เสียง และบริษัทที่มีสัญชาติใด จึงจะดำเนินการต่อ

ส่วนผู้ที่กระทำเหตุในคลิปนั้น กำลังเตรียมออกหมายเรียกเพื่อมาสอบสวน เบื้องต้นคงมีความผิดในฐานะกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ส่วนผู้โพสต์คลิปดังกล่าวก็คงเข้าข่ายในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือการนำภาพอนาจารนำเข้ามูลในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะได้เรียกมาสอบสวนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน