ตร.คุมตัวอดีตหลวงตาตีเณรวัย 9 ขวบบาดเจ็บสาหัส ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นค้านประกันตัว ขณะที่เจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ ชาวบ้านรอบวัดเชื่ออดีตหลวงตาพลั้งมือลงโทษเณรรุนแรงเกิน เผยที่ผ่านมาอดีตหลวงตาไม่เคยมีอารมณ์โมโหรุนแรง แม่วอนช่วยค่ารักษาลูก

คุมตัวอดีตหลวงตาไปฝากขังศาล

กรณีสามเณรดิว อายุ 9 ขวบ ถูกอดีตพระศุภชัย สุทธิญาโณ ซึ่งบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดเดียวกัน ลงโทษด้วยการใช้ไม้ตีและจับกดน้ำ จนสามเณรได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อาการยังโคม่า ขณะที่อดีตพระศุภชัย ถูกตำรวจควบคุมตัวไปสึก ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรลูกแก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น อ่านข่าว ขอยื้อชีวิตเณร!พ่อแม่สุดเศร้า ไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ ยันเอาผิดหลวงตาถึงที่สุด

ฝากขังอดีตหลวงตา/ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวอดีตพระศุภชัยไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะกลับมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อ่านข่าว จับหลวงตา โหด! ตีเณรโคม่า อ้างโมโหดื้อ-ซน คว้าไม้หวดน่วม ตร.หิ้วสึกทันควัน

โดยในส่วนของการดำเนินคดีนั้นขณะนี้ ยังคงต้องข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หากในอนาคตสามเณรดิวเสียชีวิตขึ้นมา ก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นเสียชีวิตต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุ ไม่พบว่าเคยกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดดอนขมิ้น ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นวัดที่เกิดเหตุยังคงมีประชาชนเดินทางมาทำบุญกันตามปกติ รวมถึงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางอดีตพระศุภชัยไม่น่าจะมีเจตนาทำร้ายสามเณรจนได้รับบาดเจ็บหนัก

แต่น่าจะเป็นเพราะการลงโทษอย่างพลั้งมือมากเกินไป จนทำให้สามเณรบาดเจ็บสาหัส ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลของทางพระครูสุพัฒนกาญจนกิจ เจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้น กล่าวว่า ตามปกติอดีตพระศุภชัย บวชและจำพรรษาที่วัดดอนขมิ้นมาหลาย 10 ปี และรับหน้าที่ดูแลสามเณรภายในวัดมาโดยตลอด

ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประวัติทำร้ายสามเณรหรือเด็กภายในวัดจนได้รับบาดเจ็บมาก่อน จะมีก็เพียงการทำโทษเมื่อสามเณรทำผิด ซึ่งก็เป็นการลงโทษตามธรรมดา ซึ่งทางเจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้น เชื่อว่าสาเหตุของเรื่องดังกล่าว น่าจะมาจากการที่สามเณรดิว มีนิสัยซุกซนและดื้อรั้น ถึงขนาดที่ว่าวันก่อนเกิดเหตุ อดีตพระศุภชัยพาสามเณรดิวมาหาหลวงพ่อ พร้อมขอที่จะไม่ดูแลสามเณรต่อ เนื่องจากไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน ดื้อรั้นและยังซุกซน

แต่ทางหลวงพ่อเห็นว่า อีกไม่กี่วันสามเณรดิวก็จะลาสิกขาแล้ว จึงให้อดีตพระศุภชัยดูแลต่อไป ก่อนจะมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยทางเจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้นเชื่อว่า วันเกิดเหตุอดีตพระศุภชัยน่าจะเกิดอาการโมโหที่สามเณรดื้อมากจึงตีสั่งสอน แต่ถูกสามเณรด่าบุพการีกลับ จึงลงมือรุนแรง จนเกิดเหตุสลดใจดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าอาวาสยืนยันว่าจะให้การช่วยเหลือครอบครัวของสามเณรดิวอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ ส่วนเรื่องของน้องชายสามเณรดิว วัย 6 ขวบ ที่บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดดอนขมิ้นเช่นกันนั้น ทางเจ้าอาวาสยืนยันว่าได้พูดคุยกับแม่ของเด็กแล้ว โดยแม่ของเด็กยืนยันว่าจะให้อยู่เป็นสามเณรที่วัดต่อไป ซึ่งทางวัดก็ยินดีที่จะรับดูแลสามเณรเช่นกัน

ด้านนางทองคำ ศักสังวร อายุ 64 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดและเดินทางมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ กล่าวว่า รู้จักกับแม่ของสามเณรและสามเณรทั้ง 2 รูป ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้มาบวชที่วัด เนื่องจากบ้านของสามเณรทั้ง 2 รูปมีฐานะยากจน ทุกวันสามเณรดิวจะมานั่งรอตนที่ขี่รถขายลูกชิ้นในหมู่บ้านเป็นประจำ ซึ่งตนก็มักจะให้ลูกชิ้นไปทานโดยไม่คิดเงิน

กระทั่งทั้ง 2 คนมาบรรพชาเป็นสามเณรที่วัด ตนก็จะแวะเวียนมาทำบุญเป็นครั้งคราว มาทราบข่าวว่าสามเณรดิวถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ตนเมื่อทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ อีกทั้ง เมื่อทราบว่าผู้ก่อเหตุคือหลวงตาศุภชัยก็ยิ่งตกใจมาก เนื่องจากที่ผ่านมาหลวงตาคอยดูแลสามเณรในวัดมาตลอด และก็ไม่เคยมีเรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้น ซึ่งตนก็เชื่อว่า น่าจะเป็นผลมาจากความโมโหและอารมณ์ชั่ววูบของตัวหลวงตาเอง ซึ่งไม่น่าจะมีเจตนาทำร้ายสามเณรจนบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันนางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น แม่สามเณรดิว ร้องโซเชียลให้ช่วยเหลือ เนื่องจากในระยะนี้ไม่สามารถทำงานได้ เงินที่จะใช้จ่ายดูแลลูกก็ไม่มี เนื่องจากไม่มีรายได้อะไร เพราะยังคงต้องเฝ้าดูอาการสามเณรลูกชายอยู่ ประกอบกับทางบ้านมีฐานะยากจน จึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวด้วย

สำหรับบ้านพักของนางสุกัญญา มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ประตูและฝาผนังผุพัง ภายในบ้านไม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น โดยเพื่อนบ้านระบุว่านางสุกัญญามีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ และต้องอดมื้อกินมื้อ