ตร.จ่อเลิก ส่วนแบ่งค่าปรับจร. ชี้ค่าปรับ 5 หมื่น เป็นโทษสูงสุด แต่ปรับจริงอยู่ที่ดุลพินิจ ของพนักงานสอบสวนหรือศาล เผยกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช.

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เรื่องปรับแก้กฎหมายจราจรเปรียบเทียบปรับ กรณีไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จะถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 50,000 บาท และไม่พกใบขับขี่จะถูกปรับ 10,000 บาท

ตร.จ่อเลิก / พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าจำนวนเงินดังกล่าวเป็นเพียงอัตราโทษปรับสูงสุดที่ระบุไว้เท่านั้น การไม่พกใบขับขี่ จำนวนเงินที่จะเปรียบเทียบปรับ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน และกรณีไม่มีใบขับขี่ การเปรียบเทียบปรับจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล และกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช.

พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวต่อว่า การปรับแก้กฎหมายดังกล่าวเนื่องจากพบสถิติอุบัติเหตุในประเทศไทยเกิดขึ้นสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก จึงมีแนวคิดปรับแก้เพื่อลดปัญหาและเป็นไปตามสากลโดยเฉพาะการปรับแก้กฎหมายสำหรับผู้ขี่รถจักรยานยนต์

จากนี้จะพิจารณาแบ่งรถจักรยานยนต์ออกเป็น 2 ประเภท คือ รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ที่มีซีซีมาก หรือ บิ๊กไบก์ โดยพิจารณาทบทวนการเพิ่มกฎเกณฑ์ผู้จะได้รับใบอนุญาตขับขี่รถบิ๊กไบก์ ทั้งอายุ ความสามารถในการควบคุมรถและการอบรมเฉพาะทาง

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังกล่าวถึงการพิจารณาปรับแก้การขอทำใบอนุญาตขับขี่ ที่ต้องผ่านการตรวจจากแพทย์ว่าไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อการควบคุมรถ รวมถึงความสามารถของผู้ขับขี่ด้วย

ส่วนผู้ขับขี่ที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว รวมไปถึงใบขับขี่ตลอดชีพแล้วเกิดอาการป่วยขึ้นภายหลังจนส่งผลต่อการขับรถ หากตำรวจพบจะประสานไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณาระงับการใช้ใบขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนรวม

นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างพิจารณายกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับให้กับตำรวจจราจร เพื่อป้องกันข้อครหาการกวดขันวินัยจราจรบนท้องถนน และยกตัวอย่างส่วนแบ่งค่าปรับจราจรที่ผ่านมาว่า หากปรับ 100 บาท เงินจำนวน 50 บาท จะถูกส่งเข้าการปกครองส่วนท้องถิ่น 2 บาท 50 สตางค์

เงินส่วนนี้จะเข้ากองทุนค่าใช้จ่าย และ 47 บาท 50 สตางค์ เงินส่วนนี้จะเป็นส่วนแบ่งให้ตำรวจจราจร ซึ่งการพิจารณายกเลิกเงินส่วนแบ่งนี้ จะกระทบต่อขวัญกำลังใจตำรวจจรที่ปฎิบัติหน้าที่หรือไม่นั้นเห็นว่า หากมีการยกเลิกจริงทางสำนักงานตำรวจก็จะพิจารณาค่าตอบแทนอื่นทดแทนได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน