ชาวประจวบสุดอาลัย ต้นศรีมหาโพธิ์ ร.9 ทรงปลูกยอดเขาช่องกระจก เจ้าอาวาสแจง
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพการตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปลูกไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์บนยอดเขาช่องกระจกนั้น
วันที่ 29 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบต้นพระศรีมหาโพธิ์บนยอดเขาช่องกระจก วัดธรรมิการามวรวิหาร ถนนสละชีพ เขตเทศบาล อ.เมือง จ.ประจวบฯ ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าติดกับศาลากลางจังหวัดประจวบฯ หลังได้รับแจ้งว่าถูกโค่นแล้วขุดขึ้นมาเตรียมที่จะปลูกทดแทนใหม่ จากการเดินขึ้นบันไดจำนวน 396 ขั้น สู่ยอดเขา ระหว่างการเดินทางพบเศษอาหาร ขยะ ขวดน้ำ และถุงพลาสติก ที่ลิง และนักท่องเที่ยวทิ้งไว้เกลื่อนกลาด บริเวณพื้นบันได และด้านข้างบันไดทั้ง 2 ฝั่ง
จากการตรวจสอบพบว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปลูกไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์บนยอดเขาช่องกระจก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี พ.ศ.2501 รวมแล้วกว่า 60 ปีนั้น ได้ถูกขุดขึ้นมา แล้วบั่นทอนเป็นท่อนๆ จนเหลือแค่โคนต้นกองไว้บริเวณข้างหลุม โดยสภาพต้นโพธิ์มีลักษณะ เนื้อและเปลือกต้นแห้ง คล้ายกับอาการขาดน้ำเนื่องจากสาเหตุยืนต้นตาย ผลปรากฏว่าเป็นจริง
โดยพระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ในหลวง ร.9 ทรงปลูกไว้ต้นนี้ ได้เริ่มเหี่ยวเฉาลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ในหลวงสิ้นพระชนม์ หลวงพ่อและพระในวัดได้พยายามนำน้ำขึ้นไปรด แต่อาการไม่ดีขึ้นจนแห้งและยืนต้นตายในที่สุด ที่ผ่านมาในระหว่างนั้นไม่ได้แจ้งให้กับทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และไม่คาดคิดว่าต้นโพธิ์จะยืนต้นตาย เพราะที่ผ่านมาตลอด 60 ปี ต้นโพธิ์เจอทั้งหน้าฝน หน้าแล้งมาสารพัดยังอยู่มาได้เนื่องจากอาศัยอาหารและน้ำธรรมชาติบนเขา ประกอบกับต้นโพธิ์เป็นไม้ที่มีอายุยืนยาว
หลังจากสุดพยายามที่จะยื้อชีวิตต้นโพธิ์แล้ว หลวงพ่อและพระในวัดได้ช่วยกันทอนกิ่งและขุดต้นโพธิ์ขึ้นมาเพื่อเตรียมนำต้นโพธิ์ต้นใหม่สายพันธุ์เดิมจากพุทธคยาประเทศอินเดียมาปลูกแทนที่ในวันจัดงานเทศกาลขึ้นเขาห่มพระช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ส่วนต้นโพธิ์ที่แห้งตายก็จะนำมาเก็บรักษาไว้ในวัดเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ดูว่า นี่คือต้นโพธิ์ต้นแรกต้นเดิมที่ในหลวงท่านทรงปลูกไว้ให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อสมัย 60 ปี ก่อน
“อาตมาก็ยอมรับว่าทดแทนกันไม่ได้ และที่ผ่านมาวัดไม่มีความรู้เรื่องนี้ วัดทำเท่าที่ทำได้ ส่วนซากต้นไม้ความยาวกว่า 1 เมตร ยังอยู่ในจุดเดิม ที่ผ่านมามีบุคคลภายนอกแจ้งขอใช้เพื่อนำไปแกะสลักพระพุทธรูป แต่วัดยังไม่อนุญาต เนื่องจากมีแนวคิดจะนำออกไปแปรรูป แต่เมื่อกระแสสังคมให้ความสนใจก็จะเก็บรักษาซากไว้อย่างดี เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติที่มา”
นายศิลา โพธิ์ระย้า แกนนำกลุ่มจิตอาสาเมืองประจวบฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริเวณที่มีการตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ยอมรับว่ามีผลกระทบกับความรู้สึกของประชาชนทั่วไปพอสมควร ขณะนี้ได้แจ้งให้รวบรวมสมาชิก เพื่อจัดหาวัสดุที่เหมาะสมไปล้อมรอบโคนต้นศรีมหาโพธิ์เพื่อให้มีความสมพระเกียรติ เช่นเดียวกับล้อมตอไม้จันทน์หอมภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ภายหลังมีการตัดไปจัดสร้างพระโกศ
