ล่า “มู่หลาน” หัวหน้าแก๊งค้าพะยูง แฉเบื้องหลังมีนายพลช่วย เผยประวัติเคยแข่งร้องเพลงรายการดัง
ล่า “มู่หลาน” / เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันป้องรักษาป่าและควบคุมไฟป่า หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ พยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ภายใต้การอำนวยการของนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.)
บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สืบทราบว่ามีการทำไม้มีค่าหายากขบวนการข้ามชาติ มีไม้พะยูง ชิงชัน และประดู่ เตรียมนำส่งออกนอกราชอาณาจักร
บริเวณโกดังแปรรูปไม้ เลขที่ 99 ม.10 ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จึงเข้าปฎิบัติการและสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 4 ราย พร้อมนายทุนชาวจีนในที่เกิดเหตุ พร้อมออกหมายจับ น.ส.ชลิดา สุพันธมาส หรือ มู่หลาน ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการค้าไม้ข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเวลานี้
นายชีวะภาพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบขบวนการของน.ส.ชลิดา พบว่าเกี่ยวข้องกับคดีรายใหญ่หลายคดี เช่น คดีการ นำเอาไม้ที่ผิดกฎหมายไปซุกซ่อนในหน่วยป้องกันรักษาป่าๆ(หาดไคร้)ในท้องที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งภายหลังได้ไล่ออก เจ้าหน้าที่ลูกจ้างทีโออาร์ของกรมป่าไม้ 2 นาย และมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว มีคำสั่งย้ายหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า(หาดไคร้)ออกนอกพื้นที่ และแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดด้วย
ซึ่งพบว่าผู้จ้างวานคือน.ส.ชลิดา นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคดี และมีโรงงานและโกดังไม้ซุกซ่อนอยู่ตามจังหวัดชายแดนหลายที่ทั่วประเทศ จากตรวจสอบพบว่าเคยถูกจับดำเนินคดี โกดังไม้พะยูง 1,700 ท่อน ในท้องที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อปี 2555 ภายหลังมีคำสั่งในชั้นอัยการสั่งไม่ฟ้องๆ และฟ้องเพียงบางข้อกล่าวหาและมีการคืนของกลางทั้งหมดที่เป็นไม้ท่อนคืนไป
คณะเจ้าหน้าที่จะขยายผลตรวจสอบรื้อฟื้นคดีใหม่ทั้งหมด และจะขยายผลต่อกลุ่มขบวนการให้ถึงที่สุดต่อไป และในวันพรุ่งนี้ (31ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นตู้สินค้าท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งคาดว่าจะมีไม้ผิดกฎหมาย และเป็นเครือข่ายของน.ส.ชลิดา ที่ถูกเป็นไว้ในที่ดังกล่าวด้วย
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า สำหรับน.ส.ชลิดา หรือ มู่หลาน เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า เป็นคนจีนที่มาอาศัยในประเทศไทยประมาณ 10 ปีมาแล้ว โดยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นายทหารอากาศ ยศนายพล นอกราชการ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีชื่อ เป็นผู้เช่าโกดังจุดพักไม้ ซอยรุ่งโรจน์ ถ.แพรกษา ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ซึ่งเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปตรวจค้น และตรวจสอบ ภายใต้ยุทธการฟ้าสางแพรกษา พบว่า มีไม้พะยูง ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ ทั้งแบบไม้ท่อนขนาดใหญ่ ไม้พะยูงท่อน ไม้ชิงชัน แปรรูปเป็นเหลี่ยมจำนวนนับได้ 412 ท่อนเหลี่ยม ที่ผิดกฏหมาย คิดเป็นมูลค่าในเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 36 ล้านบาท นอกจากนี้
ชื่อตามบัตรประชาชน ของ มู่หลานที่ใช้ชื่อ น.ส.ชลิดา สุพันธมาส นั้น คาดว่าเป็นการนำเอาบัตรประชาชนของชาว จ.สุรินทร์มาสวมชื่อ อีกต่อหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่า มู่หลาน เคยเข้าประกวดการแสดงในรายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเล็นท์ เมื่อปี 2556 โดยใช้ชื่อตอนเข้าประกวดว่า ลูเซีย ร้องเพลง มาย ฮาร์ท วิล โก ออน
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับ นายทหารอากาศนอกราชการคนดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายอรรคพล กล่าวว่า กำลังรวบรวมหลักฐานการเชื่อมโยงอยู่ ซึ่งเวลานี้ก็ถือว่ามีมากพอสมควร ทั้งในเรื่องการเกี่ยวข้อง พฤติกรรม การปรากฏตัว รวมไปถึงข้อมูลลับอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทาง ศปก.พป.จะประสานไปทางพนักงานสอบสอบสวนว่าข้อมูลทั้งหมดที่มีนั้น เข้าหลักเกณฑ์ การสนับสนุนการกระทำผิดหรือไม่ หากเข้าก็จะพนักงานสอบสวนก็น่าจะออกหมายจับได้