แก๊งฆ่าตัดหัวนายจ้าง ทำแผนฯนาทีลงมือโหด ตร.สอบต่อ เมียคนตาย รู้เห็นด้วยหรือไม่ น้องสาวยัน พี่ชายไม่ยุ่งเกี่ยว ไสยศาสตร์มนต์ดำ
จากกรณีตำรวจกองปราบปราม จับกุมแก๊ง 5 คนงาน ชาวไทยและเมียนมา ก่อเหตุฆ่านายนวพงศ์ สัจธรรมภิวัตน์ อายุ 56 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี โดยคนร้ายได้ตัดหัว เผานั่งยาง ขุดหลุมฝังศพกลางป่า ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมปี 2558
ไหว้ขอขมาผู้ตาย
แก๊งฆ่าตัดหัวนายจ้าง / ก่อนที่ต่อมานายภิเษก สัจธรรมภิวัฒน์ อายุ 21 ปี ลูกชาย เข้าร้องเรียนพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. จนนำมาสู่การจับกุมตัวทั้ง 5 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ามีการวางแผนก่อเหตุล่วงหน้ามาเป็นเวลากว่า 1 เดือนพร้อมมีการจัดเตรียมอาวุธที่ใช้ในการสังหารไว้อย่างครบถ้วน ตามข่าว
ขุดหาศพ
อ่านข่าว : จับยกแก๊ง ฆ่าโหดนายจ้าง ตัดหัว-เผานั่งยาง ขุดหลุมฝังกลางเขาเมืองกาญจน์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ส.ค. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก5.บก.ป. นำกำลังตำรวจกองปราบ คุมตัวนายภูผาทอง หรือใหญ่ ผาทองภูมิ อายุ 36 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี, นายโซนี อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา, นายนิวอ่อง หรือโอม อายุ อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา, นายณัฐพล หรือกลอ์ฟ วิวัฏฏ์กุลธร อายุ 27 ปี ชาวจ.นครปฐม และนายมนตรี หรืออิม สูนคำ อายุ 22 ปี ไปทำแผนฯประกอบคำรับสารภาพ จำนวน 3 จุด
คุมทำแผนฯ
เริ่มจากบริเวณบ้านพักของผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 235 หมู่ 4 บ้านแก่งระเบิด ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ ที่นายโซนีและนายโอม ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาหาผู้เสียชีวิต พร้อมทำทีมาขอข้าวกิน จากนั้นนายใหญ่ที่อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว รอจังหวะที่ผู้เสียชีวิตเผลอ ใช้ไม้ตีไปที่ศีรษะจนเสียชีวิต
ก่อนจะไปรับนายอิมและนายกอล์ฟ มานำศพไปเผาอำพราง ที่สวนปาล์มห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณหนึ่งกิโลเมตร โดยในระหว่างการนำศพของผู้เสียชีวิตไปที่สวนปาล์ม นายโซนีใช้มีดแทงไปที่ร่างของผู้เสียชีวิตอีกสามครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแน่นอน
จุดทำแผนจุดที่สอง เป็นจุดที่ผู้ต้องหา เอาที่นอนของผู้เสียชีวิตและยางรถยนต์เผาทำลายศพ แต่ปรากฏว่าศพไม่ถูกเผาไหม้จนหมด กลุ่มผู้ต้องหาจึงนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถ นำไปฝังยังไร่มันสำปะหลัง ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านแก่งระเบิด ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 8 กิโลเมตร
ซึ่งที่ไร่มันสำปะหลังนี้ เป็นจุดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา มาทำแผนเป็นจุดที่สาม โดยที่จุดนี้ นายโซนี ได้ใช้จอบตัดหัวศพของผู้เสียชีวิตออก เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณตามความเชื่อ ก่อนที่จะฝังศพเรียบร้อย
ทั้งนี้ หลังก่อเหตุประมาณ 3 วัน นายโซนี ได้แอบกลับมาขุดเอาศรีษะของผู้เสียชีวิตไปเผา และนำกระดูกไปลอยน้ำเพื่อเป็นการไถ่โทษด้วย
โดยในการทำแผนที่จุดนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเอารถแบคโฮ มาขุดหาร่างของผู้เสียชีวิตด้วย แต่ยังหาไม่พบ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด กลับไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
สำหรับการทำแผนครั้งนี้ มีนางอนงค์ ชัยศิริพานิช อายุ 52 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยกลุ่มญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบเรื่อง มาเฝ้าดูการทำแผนอย่างใกล้ชิด โดยน้องสาวของผู้เสียชีวิตยืนยันว่า พี่ชายของตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำ ตามที่ผู้ก่อเหตุอ้างแต่อย่างใด
เชื่อว่าเรื่องดังกล่าว น่าจะเป็นอุบายที่นายใหญ่คิดขึ้นมา เพื่อเป็นข้ออ้างในการก่อเหตุและชักชวนผู้ต้องหารายอื่นมาร่วมลงมือ ส่วนภรรยาของผู้เสียชีวิตที่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับนายใหญ่จะรู้เรื่องด้วยหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบได้ แต่เชื่อว่าภรรยาของผู้เสียชีวิตก็คงจะเชื่อเรื่องตามที่นายใหญ่ออกอุบายด้วยเช่นกัน
โดยพ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก5.บก.ป. ได้กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดี ขณะนี้ ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง5คน ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียด รวมถึงสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องถ้าพบว่าใครที่มีความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็น ก็จะต้องดำเนินคดีต่อ
“สำหรับภรรยาของผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน ถ้าพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป” ผกก5.บก.ป. กล่าว
