ดีเอสไอ แจง ให้ความสำคัญ คดี “สมชาย นีละไพจิตร” หายตัว ยันทำตามกฎหมาย
สมชาย นีละไพจิตร/ วันที่ 31 ส.ค. คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ชี้แจงกรณีที่ปรากฏข่าว กรณีนางอังคณา นีละไพจิตร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร นำเสนอข้อมูลในงานเสวนาวิชาการ เนื่องในโอกาสวันสากลแห่งการต่อต้านการบังคับให้สูญหาย จัดโดยเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (Police watch) ร่วมกับมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 30 ส.ค.61
โดยบางส่วนกล่าวถึงคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความ ว่าคดีอยู่ในกระบวนการศาล โดยพยานสำคัญปากหนึ่งหายตัวไป และกล่าวพาดพิงว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษไม่เต็มใจในการทำคดีนี้ สิ่งที่เป็นความเลวร้าย คือ การสร้างความหวาดกลัวคนในสังคม สร้างความคลุมเครือระหว่างยังมีชีวิตหรือไม่ นั้น
นางอังคณา นีละไพจิตร
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนให้ทราบว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีพิเศษและดำเนินการเต็มความสามารถทุกเรื่อง กรณีดังกล่าวคณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเป็นคดีพิเศษ ซึ่งคดีเกิดมาเป็นเวลานานและไม่มีการพบศพนายสมชาย หรือชิ้นส่วนของร่างกายอื่นๆ ที่พอรับฟังว่ามีการตายเกิดขึ้น
จึงต้องสืบสวนสอบสวนเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่านายสมชาย ได้เสียชีวิตแล้วหรือไม่ และผู้ใดเป็นผู้กระทำผิด ทำให้ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นความผิดทางอาญาฐานฆ่าผู้อื่นได้ ส่วนความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องนั้น พนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และนำคดีสู่ศาลอาญาจนมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ดังที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณชนมาก่อนหน้านี้
รำลึก ทนายสมชาย
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับพยานในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่าพยานสำคัญยังอยู่ในความคุ้มครอง แต่เนื่องจาก พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 กำหนดให้การคุ้มครองพยานในคดีอาญาเป็นเรื่องลับ จึงไม่อาจแจ้งข้อเท็จจริงให้บุคคลอื่นได้ทราบ
