พ่อยังเชื่อลูกตายเพราะสัก ไม่โทษใคร ขอยุติเรื่องเท่านี้ ด้าน กทม.ลุยตรวจคลองหลอด!

จากกรณีมีการเปิดเผยว่า สาววัย 22 ปี เสียชีวิตหลังจากไปสักลายกับเพื่อนๆ มา ทั้งหมด 4 คน เสียชีวิตหมดทุกคน เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด จากการติดเชื้อเอชไอวี โดยตั้งศพบำเบ็ญกุศลไว้ที่วัด วิเวศธรรมคุณ(วัดนาฮุง) บ้านน้อยสนามบิน ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยแพทย์ได้ออกมาระบุว่า สาวรายดังกล่าวติดเชื้อมาก่อนหน้าการสัก เป็นเวลานับปีแล้วนั้น

คืนหน้าล่าสุด ได้มีงานฌาปนกิจศพ นางสาวเอ (นามสมมุติ สงวนนามสกุล) ไปเมื่อ เย็นวันที่ 2 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วย ความโศกเศร้าและเรียบง่าย มีญาติพี่น้อง ญาติสนิท ร่วมงาน หลังจากฌาปนกิจศพ นางสาวเอ เสร็จแล้ว นายเดชา ผู้เป็นพ่อ ได้นำหลักฐานใบรับรองแพทย์ จากโรงพยาบาลนครพิงค์มาให้ผู้สื่อข่าวดู

โดยเอกสารดังกล่าว ระบุว่า นางสาวเอ ผู้ตายติดเชื้อ HIV เฮชไอวี ขั้นที่ 3 พร้อมกับนำหนังสือรับรองการตาย ที่โรงพยาบาลเลย ออกให้มาให้กับทางผู้สื่อข่าวดูว่า โรคที่เป็นสาเหตุการตาย ระยะเริ่มต้นตั้งแต่เป็นโรคจนกระทั่งเสียชีวิต มีด้วยกัน 3 โรค Hypovolumjc Shock เป็นมาได้ 14 วัน โรค Acute Djarrhea เป็นมาได้ 14 วัน และโรค Human Immuno-Defjciency Virus Infectjon เป็นมาได้ 1 ปี

ซึ่งนายเดชา ยังยืนยัน คำตอบเดิม ว่า น้องได้ไปอยู่กับน้า ที่ กทม. ประมาณ 5 ปีแล้ว แล้วก็ไปๆมาๆ ระหว่าง จังหวัดเลย มาหาพ่อ และไปเชียงใหม่ เพื่อไปอยู่กับป้า ก่อนหน้านี้ น้องก็มีสุขภาพแข็งแรง พึ่งจะโทรมาบ่นกับพ่อ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่าปวดท้องบ่อย และทราบว่าติดเชื้อ ขั้นที่ 3 ตอนวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 และทรุดหนัก วันที่ 17 สิงหาคม และเสียชีวิตในวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา และยังเชื่อในคำพูดของลูกสาวที่บอกตนก่อนเสียชีวิต ว่า การสักลาย ที่ข้อเท้าของลูกสาวจะเป็นสาเหตุของการ ติดเชื้อ และไม่อยากให้เรื่องนี้ บานไปมากกว่านี้ และขอหยุดการให้ข่าวแค่นี้

อย่างไรก็ตาม พบว่าในวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการลงพื้นที่ ตามข่าว ซึ่งระบุว่า สาวรายนี้ไปสักมาจากย่านคลองหลอด เพื่อตรวจสอบให้เป็นไปตามหลักสุขอนามัยต่อไป