วันที่ 20 ธ.ค. ที่บริเวณลานจอดรถหน้าคลังของกลางกรมศุลกากร คลองเตย นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายไพศาล ชื่นจิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผอ.การสำนักสืบสวนและปราบปรามเข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม นายวรชิต เดชบวรลักษณ์ หัวหน้าฝ่ายปราบปรามระบบ 2 สำนักสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากร เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 และ 2 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา และเนื้อกระบือสดแช่แข็ง ซึ่งลักลอบหลีกเลี่ยงศุลกากรมูลค่าความเสียหายประมาณ 45 ล้านบาท
นายกุลิศ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.59-28 ก.พ.60 จะมีขบวนการลักลอบสินค้าหลีกเลี่ยงอากร รวมทั้งทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าเกษตร เนื้อและเครื่องในสัตว์ โดยใช้รถบรรทุกเป็นยานพาหนะ จึงประสานเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง กระทั่งพบรถบรรทุกห้องเย็นท่าทางมีพิรุธขับมาถึงย่านบางนา จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบเนื้อกระบือแช่แข็ง น้ำหนัก 16,000 กิโลกรัม มูลค่า 1.6 ล้านบาท จึงตรวจยึดไว้
นายกุลิศ กล่าวต่อว่า จากนั้นสามารถตรวจยึดสินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาลักลอบหนีศุลกากรสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจำนวน 129 รายการ มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท และสำแดงชนิดสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังอาทิ Adidas, Christian Dior, Lancome, Gucci, Bao Bao, Ripcurl, Chanel ประกอบด้วยเสื้อผ้า แว่นตา กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง น้ำหอม และโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งสิ่งเทียมอวัยวะเพศ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน จำนวน 100 รายการ มูลค่า 10 ล้านบาท โดยจับกุมได้ตามแนวชายแดน
นายกุลิศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบเนื้อกระบือนั้นทราบว่านำเข้ามาแถบชายแดนภาคใต้โดยขนย้ายเพื่อนำเข้ามาในพื้นที่กทม. ก่อนจะกระจายส่งตามบริษัท หรือร้านอาหารต่างๆ ทั้งนี้ทางกรมศุลกากรได้นำตัวอย่างให้กรมปศุสัตว์ตรวจวิเคราะห์ก่อบพบว่ามีสารปนเปื้อน หรือเชื้ออีโคไล หากรับประทานเข้าไปจะเกิดอาการปากเปื่อยและท้องร่วง ซึ่งหลังจากนี้จะนำเนื้อแช่แข็งทั้งหมดส่งให้กับกรมปศุสัตว์ทำลายอีกครั้ง ส่วนสินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญานั้นสามารถจับกุมได้บริเวณตะเข็บชายแดนขณะกำลังลำเลียงเพื่อเข้าพื้นที่กทม. โดยปลายทางจะไปเก็บที่โกดังในพื้นที่กทม. ก่อนส่งกระจายตามร้านค้าและตลาดนัดต่างๆ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐานก่อนนำส่งนิติกรกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายพร้อมทั้งเร่งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
