เตือนภัย! ล่าหนุ่มมิจฉาชีพ ปลอมเป็นจนท.ไฟฟ้า ตระเวนตุ๋นเงินทั่วประเทศ

เตือนภัย! ล่าหนุ่มมิจฉาชีพ ปลอมเป็นจนท.ไฟฟ้า ตระเวนตุ๋นเงินทั่วประเทศ

จากกรณีที่นายวชิรกร บุญเรือง อายุ 28 ปี ผู้ดูแล “สามสิบแสน โฮสเทล” ย่านชุมชนพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Wachirakorn BG เพื่อเตือนภัยมิจฉาชีพ หลังถูกคนร้ายเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จะทำการถอดมิเตอร์ไฟฟ้าที่โฮสเทล เพราะค้างชำระค่าไฟ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ส.ค.61 จึงหลงเชื่อเพราะแต่งตัวและติดบัตรเหมือนเจ้าหน้าที่ กฟภ. รวมทั้งมีการค้างชำระค่าไฟฟ้าอยู่จริงจำนวน 4,592 บาท และเกรงว่าหากถูกตัดไฟจะเกิดปัญหากระทบกับลูกค้าที่พักอยู่ จึงจ่ายเงินให้ ก่อนจะทราบว่าถูกหลอกและรีบไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

นายวชิรกร บุญเรือง ร้องถูกมิจฉาชีพตุ๋นเงิน

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายวชิรกร เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้าย เบื้องต้นได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ แต่ไม่ทราบหมวดอักษร จึงยังจับกุมตัวไม่ได้ ล่าสุดทราบว่า เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) คนร้ายไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันที่ จ.สระแก้ว

นายวชิรกร บุญเรือง เตือนภัย

นายวชิรกร กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายรายล่าสุดที่ จ.สระแก้ว ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัยลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Kate Sasarush” รวมทั้งนำเรื่องราวที่ตนเคยโพสต์เตือนภัยไปแชร์ต่อและมีการติดต่อมาพูดคุยกับตนเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น สรุปได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน ตนได้มีการส่งข้อมูลต่างๆ ให้ผู้เสียหายที่ จ.สระแก้ว เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย

ผู้เสียหายอีกรายที่ จ.สระแก้ว

นายวชิรกร กล่าวอีกว่า อยากวิงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะดูจากลักษณะแล้วคนร้ายรายนี้ไม่ได้มีความเกรงกลัวกฎหมาย เห็นได้จากการที่ตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่องไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และน่าจะก่อเหตุเช่นนี้มาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่โดนจับกุม

ผู้เสียหายที่ จ.สระแก้ว แชร์โพสต์ เตือนภัย ของนายวชิรกร

“แม้ว่าจะมีการโพสต์เตือนภัย รวมทั้งมีการออกข่าวเกี่ยวกับการก่อเหตุของคนร้ายในช่วง 2-3 เดือน ทั้งที่เชียงใหม่และพิษณุโลก แต่ดูเหมือนคนร้ายไม่ได้มีความยำเกรงเลยและยังก่อเหตุอีก จึงอยากให้จับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่มีผู้เสียหายรายอื่นต้องตกเป็นเหยื่ออีก เหมือนที่ผมเสียเงินไปเกือบ 5,000 บาท และผู้เสียหายที่ จ.สระแก้ว ต้องเสียเงินไปถึง 10,000 บาท”