ออกหมายจับเสี่ยลภ มือยิงน้องเนิสสาวสวยดับคาเก๋ง หลังตร.รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับข้อหาฆ่าคนตาย ตร.วอนมอบตัวสู้คดี หากขัดขืนเจ้าหน้าที่คงต้องป้องกันตัวตามสิทธิ์
จากกรณีเกิดเหตุพบศพ น.ส.นภธร กนกเกษมโสภณ หรือ น้องเนิส อายุ 23 ปี ชาวจ.นครปฐม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนตามร่างกาย เสียชีวิตภายในรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียนป้ายแดง โดยที่บริเวณหน้าต่างรถด้านซ้ายคนขับมีรูกระสุนทะลุ 1 รู และที่ขอบประตูด้านผู้โดยสารด้านล่างมีรูกระสุนทะลุ 1 รู ตั้งข้อสงสัยจากพยานแวดล้อมพยานหลักฐานมุ่งประเด็นไปที่นายวัลลภ แฟนหนุ่มอีกคนหนึ่ง ของผู้ตาย ซึ่งคบหามีสัมพันธ์กันมาได้ประมาณ 1 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- ยิงโหด! สาวสวย วัย 23 ดับคาเก๋งป้ายแดง พบกระจกฝั่งคนขับเปิดทิ้ง(คลิป)
- ‘เสี่ยลภ’ เปิดปากแล้วยิง ‘น้องเนิส’ ตายคาเก๋ง วงจรปิดจับภาพขับกระบะไล่กวด
- สุดสลด “เนิส”สาวสวยเหยื่อปืนโหด เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพิ่งโพสต์ถึง 2 ลูกสาวตัวน้อย
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานแวดล้อมแล้ว เชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุยิง น.ส.นภธร หรือเนิส คือนายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 36 ปี ทางพ.ต.อ.ไพฑูรย์พิทักษ์ธรรม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมจึงให้ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ กล้วยไม้ รองผู้กำกับ (สอบสวน) หัวหน้างาน สอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม กับ ร.ต.อ.สถาพร ดวงสี รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี รวบรวมหลักฐาน เข้าขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐม
ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ศาลได้อนุมัติหมายจับที่ จ.32 2/2561 ลงวันที่ 4 กันยายน 2561 ให้จับกุมนายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 15 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุ สมควรและไม่มีกรณีที่ต้องมีอาวุธปืนติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน”
หลังจากศาลอนุมัติหมายจับ พนักงานสอบสวนนำหมายจับมาสำเนารับรองสำเนารายงานผู้บังคับบัญชาแล้ว แจกจ่ายหมายจับไปยังชุด สืบสวนทั้งในส่วนของสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ
ขณะที่พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่ามีผู้ติดต่อเพื่อจะขอนำผู้ต้องหารายนี้เข้ามอบตัวนั้น ซึ่งตนก็ได้รับการสอบถามมาเช่นกัน แต่ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา
ซึ่งขณะนี้นายวัลลภตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว ในคดีฆ่าคนตาย ตามหมายจับ ซึ่งหากตำรวจพบตัวผู้ต้องหาให้จับกุมโดยละม่อมก็คงไม่ใช่ปัญหา ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ถ้าเกิดการสู้หรือขัดขืน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็คงต้องป้องกันตัวไปตามสิทธิ์
เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป ดังนั้น ผู้ที่กระทำความผิดหรือผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาย่อมมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดไว้แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะฝากไปถึงนายวัลลภ ควรเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีเป็นสิทธิ์ตามกฎหมายจะดีกว่า ทางตำรวจยินดีให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว