สาวใหญ่เซ็ง เลี้ยงหมา-แมวจรจัดเกือบ 100 ตัว โทรไปร้องทุกข์สำนักนายกฯ ก่อนมีผู้นำท้องถิ่นมาดู แต่ไม่เจอหมา-แมวที่เลี้ยง กลับถูกหาว่าโกหก ที่จริงแล้วตนออกไปเลี้ยงตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังเช่าห้องให้พวกมันอยู่อีกห้องหนึ่งด้วย รายได้ก็แทบไม่พอใช้ หวังมีคนมาช่วย เพราะสงสารพวกมัน
สาวใหญ่เซ็ง วันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท ซึ่งมีหนังสือบันทึกคำร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ ของนางบังเอิญ เกลี้ยงคำหมอ อายุ 50 ปี ซึ่งส่งมาจากสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดยมีข้อความดังนี้
ขอความอนุเคราะห์ให้จัดสรรทุนเพื่อใช้เป็นเงินค่าอาหารสำหรับเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัดให้แก่ นางบังเอิญ เกลี้ยงคำหมอ อายุ 50 ปี ที่อยู่ปัจจุบันห้องเช่าเลขที่ 141/ 3 หมู่ 2 ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เป็นเงิน 50,000 บาท ปัจจุบันผู้ร้องประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้วันละ 150 บาท สามีประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปมีรายได้วันละ 150 บาท มีค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและค่าใช้จ่ายในการ เลี้ยงสุนัขและแมวจรจัดประมาณเดือนละ 16,000-17,000 บาท
นางบังเอิญ นำอาหารมาเลี้ยงแมวจรจัดทุกวัน
ประกอบด้วยค่าเช่าห้องจำนวน 2 ห้องเดือนละ 1,500 บาท ค่าน้ำประปาเดือนละ 200 บาท ค่าไฟฟ้าประมาณเดือนละ 1,500 บาท ค่าผ่อนชำระรถจักรยานยนต์ จากการนำไปจำนำกับไฟแนนซ์ ประมาณเดือนละ 1,000 บาท ค่าดอกเบี้ยการจำนำทองที่สถานธนานุบาล เดือนละ 50 บาท ค่าอาหารแมวประมาณเดือนละ 1,000 บาท ค่าข้าวสารเพื่อใช้เลี้ยงสุนัขประมาณอาทิตย์ละ 500 บาท ค่าใช้จ่ายในการซื้อไก่เพื่อนำมาต้มให้กับสุนัข ประมาณอาทิตย์ละ 200 บาท ประกอบกับมีการเลี้ยงสุนัขจรจัดไว้ 20 ตัว เลี้ยงแมวจรจัดไว้ 60 ตัว
นางบังเอิญ เลี้ยงหมา-แมวจรจด จนเงินแทบไม่พอใช้
ปัจจุบันผู้ร้องแจ้งว่า แบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าอาหารของสุนัขและแมวเป็นจำนวนมากประสบปัญหามีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย หากได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจะมีความสามารถในการผ่อนชำระคืนเดือนละ 2,000 บาทผู้ร้องไม่สามารถหาบุคคลค้ำประกันได้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นางบังเอิญ ที่บ้านหลีงดังกล่าว ซึ่งกำลังเตรียมข้าว หัวอาหารแมว และปลากระป๋อง จำนวนมาก ออกตระเวนไปให้แมวและหมาที่วัดจวน ผู้สื่อข่าวจึงตามไปดูพบว่ามี 4 จุด คือที่อาคารออกกำลังกายหน้าวัด บนหอสวดมนต์ 2 จุด และบริเวณใต้ถุนศาลา 1 จุด เนื่องจากแมวจะแบ่งพวกไม่สามารถกินด้วยกันได้ รวมกว่า 30 ตัว และยังต้องนำอาหารไปไปให้หมาและแมวจรจัดที่อยู่ในอาคารโรงงานร้างกลางทุ่งนาอีก 20 ตัว แล้วจึงกลับมาให้อาหารแมวหมาที่บ้านตัวเองอีกกว่า 10 ตัว โดยเช่าห้องให้สุนัขและแมวของตนอยู่ 1 ห้อง และเช่าอีกห้องสำหรับอาศัยอยู่กับสามี
นางบังเอิญโทรไปร้องทุกข์ กลับถูกหาว่าโกหก
นางบังเอิญ กล่าวว่า ตนถูกกล่าวหาว่าหลอกลวง ตนอยากให้เขารู้ว่าเป็นเรื่องจริงว่า ตนเลี้ยงหมาแมวจรจัดจำนวนมากจริงๆ เพราะหลังจากตนได้โทรศัพท์ไประบายความทุกข์ใจที่เบอร์ 1111 แล้วกด 2 ศูนย์ดำรงธรรมสำนักนายกฯ เพื่อให้หายทุกข์เพราะไม่รู้จะระบายกับใคร ไม่กี่วันต่อมามีเจ้าหน้าที่มากันเต็มบ้านทั้งกำนัน นายก อบต. นายอำเภอ ทหาร ปศุสัตว์ 10 กว่าคน แต่เขาไม่เจอหมากับแมวตามที่ได้ร้องทุกข์ไป กำนันบอกว่าตนโกหก แล้วหมาแมวที่ตนไปเลี้ยงเป็นหมาแมวที่มีเจ้าของ ทำให้ตนมีความรู้สึกเสื่อมเสีย
จึงอยากจะเคลียร์ตัวเองว่าตนทำจริง ค่าใช้จ่ายวันละ 300 บาท มีอาหาร ปลากระป๋อง และข้าว ส่วนรายได้ของตนไม่แน่นอน ได้ประมาณ 60-250 บาท รายได้ไม่พอเลี้ยงหมาแมวอาศัยไปเชื่อที่ร้านค้าเอาปลากระป๋องและหัวอาหาร มาก่อนขอเขา 10 วันจะจ่ายให้ครั้งละ 1,000 บาท แต่ไม่พอ 5 วันก็หมดแล้ว ต้องทยอยซื้อต่างหากอีก แต่ไม่ให้สามีรู้ เขาจะไม่สบายใจเพราะเป็นเงินที่เขาให้มาใช้ในบ้าน สามีเองก็ทำอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่แน่นอน ยังต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟอีก ทำอย่างนี้มา 10 ปีแล้ว สิ่งที่อยากให้ช่วยเหลือจะเป็นข้าว ปลากระป๋อง และอาหารเม็ด
ตลอด 10 ปีที่ทำมารู้สึกเหนื่อย แต่มีความสุขที่ได้เห็นพวกเขากินอิ่มแล้วมีความสุข ครั้งแรกที่ทำเกิดจากความเหงา ด้วยตนไม่มีลูก อยู่กัน 2 คน สามีภรรยา สมัยก่อนพระในวัดเยอะข้าวที่บิณฑบาตมามีเยอะจึงนำไปแจกให้หมาข้างวัดกิน จากนั้นเกิดความต่อเนื่อง เคยเอาไปให้แล้วเขาเคยได้กินหากไม่เอาไปให้รู้สึกห่วงเขา จึงต้องเอาไปให้ทุกวัน หลังจากนั้นพระเริ่มน้อยลง ข้าวปลาอาหารก็น้อยลงจึงต้องออกทุนซื้อข้าวและอาหารเองมาตลอด
แต่ไม่คิดว่าเราโทรไประบายความทุกข์ใจไปยังสำนักนายกฯ ท่านสนใจเรา สั่งให้หลายหน่วยงานเข้ามาดูแล แต่กลับถูกตราหน้าว่าหลอกลวง รู้สึกเครียดมาก จึงต้องพึ่งนักข่าวให้มาทำข่าวว่าตนได้เลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนมากจริงๆ ผู้ประสงค์จะช่วยเหลือนางบังเอิญ สามารถติดต่อนำสิ่งของมาช่วยเหลือได้ที่วัดจวน หมู่ 2 ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท โทรศัพท์ 083-2198994
