ฮือฮา! ปู่ฤาษีโผล่จากดินจอมปลวก ที่เคยฝังศพเด็กทารกของหมอตำแยโบราณ
วันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี พากันนำธูปเทียน ดอกไม้ และผลไม้มากราบไหว้บูชา ‘องค์เทพปู่ฤาษี’ ที่เชื่อว่าผุดขึ้นมาจากดินจอมปลวกขนาดใหญ่ บริเวณหลังศาลาปฏิบัติธรรมสำนักสงฆ์พรหมรังศรี เลขที่ 149 หมู่ 2 ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน หลังมีคนไปพบรูปปั้นปู่ฤาษีโผล่ขึ้นมาจากดินจอมปลวกขนาดใหญ่ที่พังทลายไปเมื่อหลายปีก่อน นอกจากนี้ยังพบตำราโบราณที่มีการจารึกอักษรเป็นภาษาล้านนาหรือทางแถบพม่า ในสภาพที่มีความสมบูรณ์แค่บางส่วน จึงมีความเชื่อว่า องค์ปู่ฤาษีและตำราโบราณนี้จะมีอายุมากกว่าหลายร้อยปี
สำหรับ “ปู่ฤาษี” มีขนาดหน้าตักประมาณ 5-6 นิ้ว ในลักษณะนั่งหลังค่อม มีลูกประคำห้อยคอ ท่านั่งขัดสมาธิหนวดยาวถึงหน้าตัก ตัวองค์เป็นสีดิน คล้ายสร้างขึ้นจากผงว่านผสมดิน และยังคงมีคราบของดินจอมปลวกเกาะติดทั้งองค์ ซึ่งไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าสร้างขึ้นมาจากวัสดุอะไรบดผสมกัน โดยบริเวณหน้าตักถูกฝังลึกลงไปในพื้นดินบนจอมปลวก ไม่เหมือนเป็นการนำมาวางตั้งหรือขุดเพื่อฝังแต่อย่างใด และอีกทั้งมีใครทราบอายุของพระพุทธรูปที่แน่ชัด ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็น “ปู่ฤาษี” ศักดิ์สิทธิ์ ที่โผล่ออกมาจากดินเพื่อเป็นสิริมงคลและให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา
เคยเป็นป่ารกร้าง สมัยโบราณเคยใช้ฝังศพเด็ก
นางณิชชันน์ ศรีอิ่นแก้ว อายุ 51 ปี ผู้พบเห็น เล่าว่า มาปฏิบัติธรรมถือศีลที่นี่เป็นเวลา 1 ปี และเดินผ่านไปยังจุดที่พบกับฤาษีจอมปลวกที่ขึ้นมาจากดิน จึงเกิดความสงสัยจึงได้สอบถามครูบาบุญยง หรือ หลวงพ่อบุญยง อภิลาโส เจ้าสำนักสงฆ์พรหมรังศรี ทราบว่าก่อนที่จะมีการตั้งสำนักสงฆ์ที่นี่เคยเป็นป่ารกร้างของหมู่บ้าน เนื่องจากอยู่แถบเนินเขาระหว่างเขื่อนไม้เต็งกับบ้านน้ำพุ
“ที่นี่เคยเป็นป่าช้าสำหรับฝังศพ ส่วนที่บริเวณพบองค์ปู่ฤาษีนี้ เป็นสถานที่ฝังศพทารกที่เสียชีวิตจากการคลอดบุตรของหมอตำแย และ เด็กที่เสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บในสมัยก่อน คาดว่าบริเวณหน้าทางขึ้นด้านหน้าของที่ฝังศพเด็กทารกนี้มีการนำรูปปั้นองค์ปู่ฤษี มาตั้งไว้เพื่อเป็นการสพกดจิตวิญญาณต่างๆ และหมอตำแยหรือผู้ที่เล่นคาถา ได้นำมาวางไว้ที่ปู่ฤาษีด้วย เมื่อเวลาผ่านไปจอมปลวกจึงได้ขึ้นปรกคลุมจนมอดกลืนรูปปั้นปู่ฤาษีและตำราโบราณหายไปด้วย”
เผยครูบานิมิตเห็นชายชรานุ่งชุดขาว หนวดเครายาวสีขาว
นางณิชชันน์ เล่าให้ฟังอีกว่า หลังจากที่ครูบาบุญยง มาจำพรรษาที่บริเวณพื้นที่ด้วยการปักกลดค้างแรม ได้นิมิตว่ามีชายชรานุ่งชุดขาว หนวดเครายาวสีขาว และผมหงอกขาว ผิวกายสีขาว มาบอกว่าต่อไป คูบาจะต้องจำพรรษาที่นี่ และจะมีคนเดินทางมาความศรัทธา ครูบาบุญยืนจึงกล่าวไปว่าถ้าเป็นอย่างที่กล่าวจริง ขอให้ครอบครองพื้นที่ดินเพื่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ในการปฏิบัติธรรมของสาธุชน ภายจากนั้นได้มีชาวบ้านเดินทางมากราบสักการะครูบาบุญยืน และถวายปัจจัยเพื่อนำไปใช้ในการสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ครูบาบุญยืนจึงนำปัจจัยไปซื้อที่ดิน และสร้างสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน
