กทม. จับนกพิราบ 4 พันตัว ส่งกักกันปทุมธานี หวั่นเชื้อโรคแพร่ระบาดสู่คน
จับนกพิราบ – เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่วัดบุคคโล เขตธนบุรี นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ทำการจัดระเบียบนกพิราบ ตามโครงการรณรงค์ทำความสะอาดและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยง โดยกล่าวว่า นกพิราบ ถือเป็นสัตว์ที่มีเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคจากสัตว์สู่คน
โดยโรคต่างๆที่เกิดจากนกพิราบ จะมีเชื้อโรคที่เป็นพาหะ เป็นอันตรายต่อคนได้แก่ เชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ ซึ่งเป็นเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคสมองอักเสบ เชื้อเจแปนิส บี เอ็นเชฟาไลติส ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดเยื้อหุ้มสมองอักเสบ เชื้อไข้หวัดนก และเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรงเป็นต้น
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯ กทม.
ในขณะนี้ นกพิราบเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่เกิดจากการให้อาหารของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย ดังนั้น กทม.จึงต้องดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนรำคาญจากนกพิราบและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากสัตว์สู่คน
จะนำร่องการจับนกพิราบเพื่อตรวจเฝ้าระวังโรคติดต่อจากนกสู่คน ในพื้นที่ต่างๆ โดยส่งทีมสัตวแพทย์เคลื่อนที่เข้าดำเนินงานเก็บตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการ โดยจะเก็บตัวอย่างจากมูลนกพิราบ เลือดนก และน้ำลายในช่องคอ จากนั้นจะนำนกไปกักกันที่ศูนย์กักกันจังหวัดปทุมธานี เพื่อวางแผนปล่อยสู่ธรรมชาติอย่างเหมาะสมต่อไป
นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อจับนกพิราบไปแล้ว สำนักงานเขตพื้นที่จะต้องเข้าดำเนินการทำความสะอาดพื้นที่และพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อป้องกันโรค ขณะนี้ กทม. ดูแลนำร่องในพื้นที่วัดบุคคโล ถือเป็นเขตอภัยยทาน ดังนั้นจึงมีประชาชนเข้ามาให้อาหารนกจำนวนมาก มีนกในพื้นที่กว่า 4,000 ตัว อีกทั้งยังเฝ้าระวังนกในพื้นที่เขตอื่นๆ อาทิ เขตห้วยขวาง เขตหลักสี่ เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตราชเทวี เขตบางรัก ที่มีการร้องเรียนปัญหานกพิราบจำนวนมาก
ห้ามให้อาหารนกพิราบ
โดยตนสั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่ทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับการ ห้ามให้อาหารนก ทั้งในพื้นที่วัด พื้นที่สาธารณะ และขอความร่วมมือผู้ค้าไม่ให้จำหน่ายอาหารนกภายในวัดหรือพื้นที่สาธารณะอื่นๆอย่างเด็ดขาด
ซึ่งเป็นการตัดวงจรนก ลดจำนวนนกในจุดนั้นๆได้ โดยการให้อาหารนกในที่สาธารณะ ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จะมีความผิดตามพ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2560 หมวดเหตุรำคาญ หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท
กทม.จะเริ่มมาตรการ จากเบาไปหาหนักในการดูแลแก้ปัญหานกพิราบ โดยจะเริ่มจากการประชาสัมพันธ์ถึงเหตุความจำเป็น ขอความร่วมมือไม่ให้ประชาชนให้อาหารนก แต่หากยังฝ่าฝืน จะดำเนินการจับปรับตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ค้าขายอาหารนกในที่สาธารณะ จะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ กวดขัน จับปรับ ตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ เช่นกัน
จับนกพิราบ
ด้าน พระครูพิศาลถิรธรรม เจ้าอาวาสวัดบุคคโล กล่าวว่า การทำบุญอยู่ที่ใจ แต่ผู้ทำบุญต้องพิจารณาดูด้วยว่า การทำบุญนั้นๆ จะสร้างผลกระทบอื่นๆตามมาได้หรือไม่ ต้องขอบคุณที่ประชาชนมีเมตตาต่อสัตว์โลก แต่การเมตตาต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านอื่นตามมา
