‘บิ๊กโจ๊ก’ ส่งทีมร่วมไขคดี สาวจีนตกโตนงาช้าง ดับปริศนา คุมตัวหนุ่มต้องสงสัยชาติเดียวกัน ชี้จุดที่น้ำตก ว่าตรงกับที่พยานให้การไว้หรือไม่ เบื้องต้นยังต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์
สาวจีนตกโตนงาช้าง / จากกรณีพบศพ น.ส.เทียน เหล่ย อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน เสียชีวิตที่บริเวณแอ่งน้ำชั้น 1 ของ น้ำตกโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2561 ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามาจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่างจากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ทั้งจากกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวที่ถูกนำมาทิ้งในถังขยะ และมือถือที่ถูกทิ้งในน้ำ แต่ถูกถอดซิมการ์ดออกไป พาสปอร์ตที่ถูกฉีกทิ้ง และคำให้การของหนุ่มต้องสงสัย ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว อ่านข่าว : พิรุธอื้อ!สาวจีนตกน้ำตกดับอาจถูกฆาตกรรม เชิญเพื่อนชายสอบ พบเงื่อนงำเพียบ
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย หัวหน้าศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) นำกำลังมาคลี่คลายคดี พร้อมกำลังตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่ สภ.ทุ่งตำเสา ตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองและสุนัขดมกลิ่นของ ตชด.43
ชี้จุดบริเวณน้ำตก
พาหนุ่มต้องสงสัยจับพิรุธที่น้ำตก
ตำรวจนำตัวชายชาวจีนต้องสงสัย เดินทางไปยังน้ำตกโตนงาช้างอีกครั้ง เพื่อชี้จุดว่าเข้าไปท่องเที่ยวในจุดใดบ้าง และตรงกับคำบอกเล่าของพยานหรือไม่ ซึ่งชายชาวจีนระบุว่าได้ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถ จากนั้นเดินขึ้นไปเที่ยวบนชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 และชั้น 4 ของน้ำตกเพียงคนเดียว และยังยืนยันว่าไม่เจอหรือรู้จักกับผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ไม่ได้เข้าไปยังจุดที่พบศพ แต่ทำรองเท้าตกน้ำที่บริเวณน้ำตกชั้น 1 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้สุนัขดมกลิ่น ร่วมค้นหาแต่ก็ไม่พบคาดว่าจะถูกน้ำพัดพาไป
รายงานจากจากชุดสืบสวนแจ้งว่า หลังจากที่พาชายต้องสงสัยมาชี้จุดที่น้ำตกโตนงาช้าง พบพิรุธและข้อสงสัยหลายจุด ที่สวนทางกับคำให้การของพยาน ที่ระบุว่าชายคนนี้มีพฤติกรรมที่ต้องสงสัย ไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไป ออกอาการรุกรี้รุกลน และใช้เวลาอยู่ที่น้ำตกเพียงแค่ 2 ชั่วโมงจึงจับรถออกไป
นอกจากนี้ยังมีเรื่องโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพยานระบุว่าชายคนนี้ได้ยืนคุยโทรศัพท์ แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าเพียงแค่เล่นโทรศัพท์เพื่อส่งรูปไปให้เพื่อนเท่านั้น โดยคำให้การทั้งหมดเจ้าหน้าที่ จะนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนคลี่คลายคดีต่อไป
ตำรวจท่องเที่ยวร่วมไขคดี
รอผลนิติวิทยาศาสตร์ก่อนสรุป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับผลการผ่าพิสูจน์ศพของแพทย์นิติเวชน์โรงพยาบาลหาดใหญ่ และผลการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ลายนิ้วแฝงที่พาสปอร์ตของผู้ตาย ขณะนี้ยังไม่ออกมา ส่วนชายชาวจีนต้องสงสัย แม้จะยังคงปฏิเสธ แต่ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีทุกขั้นตอน
ในช่วงรอผลทั้ง 2 อย่าง ผู้ชาวชาวจีนยังคงอยู่ในความดูแล ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหาดใหญ่ ไปจนกว่าการสืบสวนจะสิ้นสุด เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน
ระดมจนท.ค้นหาหลักฐาน
