ตร.ภ.5 เร่งคลี่คดี อ้างปปส. อุ้มฆ่าโหดหนุ่มลีซู มัดร่างติดต้นไม้ หินทุบ พุ่งเป้าขบวนการค้ายา ตร.เชื่อไม่ใช่จนท.รัฐ คนร้ายรู้จักพื้นที่ดี
แฟ้มภาพ
อ้างปปส. / จากกรณีฆ่าอำมหิต! 2 คนร้ายอ้างเป็น จนท.ป.ป.ส. จับกุมนายอาแล ลีวัวะ อายุ 36 ปี ชาวเขาเผ่าลีซู ใส่กุญแจมืออุ้มหายไปในป่า ก่อนพบเป็นศพถูกมัดติดต้นไม้ คาดโดนก้อนหินทุบจนตาย ที่เกิดเหตุบริเวณสวนป่า บ้านป่าบงงาม หมู่ 11 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ อ่านข่าว : ฆ่าอำมหิต! อ้างปปส.จับหนุ่มใส่กุญแจมือ อุ้มไปมัดต้นไม้ใช้ก้อนหินทุบจนตาย
ล่าสุดเมื่อ 28 ก.ย. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 5 เผยความคืบหน้าว่า จากการสอบถามทางภรรยาผู้เสียชีวิต เชื่อว่าคนร้ายไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะพูดไทยไม่ชัด ส่วนกุญแจมือซึ่งตำรวจใช้กันนั้น มันก็ไม่น่าจะใช่เพราะเป็นการจงใจทิ้งร่องรอยหลักฐานจนเกินไป แต่ก็ยังไม่บ่งชี้ว่าผู้ร้ายเป็นใคร
แฟ้มภาพ
นอกจากนี้ในพื้นที่ที่เกิดเหตุก็เป็นพื้นที่บนเขา ต้องเดินเท้าไกล ต้องคนที่คุ้นเคยเข้าออกพื้นที่เท่านั้น ถึงจะทราบว่าจะตามหาตัวผู้ตายได้ที่ไหน
ตร.ชี้ลงมือโหดคาดโกธรแค้นกันมา
ส่วนประเด็นสังหาร ขอให้ตำรวจทำงานก่อน ข้อมูลหลักฐานบางอย่างยังเปิดเผยไม่ได้ แต่เรื่องราวคืบหน้าไปบ้างแล้ว ไม่นานคงทราบว่าใครที่ลงมือและใครเป็นคนสั่งการฆ่า เพราะจากสภาพที่ผู้ตายถูกกระทำนั้นแสดงถึงว่าโกธรกันมาก ถึงลงมือฆ่าอย่างเหี้ยมโหดแบบนี้
ด้านพ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผกก.สภ.นาหวาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก ยังผู้ตายจะไม่ตายเปล่า กำลังสอบสวนและให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดสืบสวนคดีตามพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้
ขณะที่ข้อมูลจากฝ่ายความความมั่นคงแจ้งว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตติดต่อระหว่างชายแดนไทยกับประเทศเมียนมา ซึ่งสามารถเข้าออกได้ทุกช่องทาง หลายพื้นที่ยังคงมีขบวนการลักลอบขนและนำยาเสพติดเข้ามาพักในป่า และในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวพบว่าเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดอีกด้วย
เชื่อพยายามโยนความผิดให้จนท.รัฐ
ส่วนกรณีที่ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่าผู้ที่มานำตัวสามีของตนไปนั้นอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ คาดเป็นความต้องการกลุ่มคนร้าย ที่ต้องการเบนเรื่องให้เหมือนเป็นคนของรัฐ โยนความผิดมาทางคนของรัฐ และคดีนี้คนร้ายมีอาวุธปืนแต่ไม่ใช้อาวุธปืนยิง แต่กลับทำร้ายผู้เสียชีวิตจนถึงแก่ความตาย น่าเชื่อว่าน่าจะเป็นการโกรธแค้นผู้ตายอย่างหนักจึงทำร้ายจนถึงแก่ความตายแทนการใช้อาวุธ
บริเวณที่เกิดเหตุก็เป็นจุดที่มีการตรวจยึดยาเสพติดรายใหญ่ๆ ได้ 4 ครั้ง รวมแล้วหลายล้านเม็ด และมีกลุ่มขบวนการสูญเสียยาบ้าและยาไอช์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจจับยึดยาเสพติดทั้งหมด อาจจะมีผลพ่วงมายังกลุ่มขบวนการ ทั้งนี้หลายฝ่ายมุ่งประเด็นไปที่การหักหลังเรื่องยาเสพติด และยังต้องทำการตรวจสอบทางกล้องวงจรปิดในพื้นที่ทั้งหมด ว่าในช่วงเกิดเหตุมีใครที่เข้าออกในพื้นที่บ้าง
ผญบ.วอนชาวบ้านอย่าตื่นตระหนก-ด่วนสรุป
ทางด้านนายทวีโชค แซ่ย่าง ผู้ใหญ่บ้านป่าบงงาม เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุชาวบ้านที่ไปร่วมงานศพรู้ตกใจกลัวเป็นอย่างมาก และมีการพูดคุยว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุทำไมต้องฆ่าผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งตนเองได้แจ้งว่า ขณะนี้ไม่มีใครทราบความจริงว่าคนร้ายคือใคร ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบตามพยานหลักฐาน
ขออย่าวิพากษ์วิจารณ์ตื่นตระหนก เพราะคดีนี้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มากำชับติดตามคดีด้วยตนเอง และขอให้ทุกคนต้องเข้มแข็ง โดยจะสอบถามความคืบหน้าของคดีเพื่อให้ชาวบ้านอุ่นใจ
