ปิดล้อมจับ ไอ้หื่น ลวง ด.ญ.9 ขวบ ขืนใจในป่ามัน เลือดท่วมอวัยวะเพศฉีก!

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกำนันตำบลสำโรงใหม่ ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้ช่วยกันปิดล้อมจับกุมตัวนายวิโรจน์ ศรีอ่อน หรือ โต อายุ 46 ปี ชาวตำบลคลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำภายในบ้านภรรยา หมู่ 12 บ้านโคกแดง ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย

หลังได้รับแจ้งว่านายวิโรจน์เป็นคนก่อเหตุล่อลวง ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งตำบลสำโรงใหม่ไปบังคับล่วงละเมิดทางเพศบริเวณข้างป่ามัน ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 ก.ย.)

โดยขณะเข้าจับกุมตัวนายวิโรจน์ยังอยู่ในอาการมึนเมาแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนหรือต่อสู้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก โดยเบื้องต้นนายวิโรจน์ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอ จริง โดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะมึนเมาจึงเกิดอาการทางเพศ

ขณะที่ ด.ญ.เอ ผู้เสียหายขณะนี้ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาและตรวจหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเบื้องต้นพบบริเวณอวัยวะเพศมีร่องรอยฉีกขาด มีเลือดไหลออกจำนวนมาก ทั้งมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายด้วย

จากการสอบถามนางสำลี (ขอสงวนนามสกุล) พี่สะใภ้ของผู้ต้องหาบอกว่า ช่วงเย็นวันเกิดเหตุเห็นนายวิโรจน์ น้องเขยปั่นจักรยานซ้อนด.ญ.เอ ผ่านไป แต่ก็ไม่ได้เอะใจคิดว่านายวิโรจน์จะปั่นไปส่งด.ญ.เอ กลับไปหาตาที่บ้าน แต่เห็นหายไปนานสักพักใหญ่ตาของด.ญ.เอ โทร.มาถามว่า เห็นหลานมั้ย ก็ตอบไปว่านายวิโรจน์ปั่นจักรยานไปส่งแล้ว

จากนั้นจึงพากันออกตามหาแต่ก็ไม่พบ กระทั่งตกเย็นก็เห็นด.ญ.เอ กลับมาในสภาพที่มีเลือดเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า และมีอาการตื่นกลัว จึงสอบถามว่าเป็นอะไร ตอนแรกด.ญ.เอบอกว่ารถล้ม แต่ตนไม่เชื่อจึงเค้นถามอีก ด.ญ.เอจึงเล่าให้ฟังว่าถูกนายวิโรจน์ น้องเขยของตนเองพาไปข้างป่ามันแล้วบังคับล่วงละเมิดทางเพศ จึงถอดเสื้อผ้าด.ญ.เอ ออกดูก็พบมีรอยเลือดบริเวณอวัยวะเพศ และมีรอยเขียวช้ำตามตัว จึงแจ้งให้ตาของเด็กทราบ ก่อนที่ตาจะไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว

นางสำลียังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าน้องเขยจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งที่น้องเขยเพิ่งมาอยู่ในบ้านได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น และคนในบ้านก็ไม่มีใครรู้ประวัติหรือพฤติกรรมที่แท้จริงเลย ที่สำคัญเพิ่งมารู้ว่านายวิโรจน์เป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับของสภ.บ้านบึง “ข้อหายักยอกทรัพย์”
ทางด้านพนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งนำตัวนายวิโรจน์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดีแล้ว

เบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็ก โดยขู่เข็ญประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เด็กอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้” เนื่องมีประจักษ์พยานเห็นนายวิโรจน์ปั่นจักรยานไปกับด.ญ.ผู้เสียหาย ช่วงก่อนเกิดเหตุ ทั้งสอดคล้องกับคำให้การของผู้เสียหายด้วย ประกอบกับผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุล่วงละเมิดด.ญ.ผู้เสียหาย ด้วย อย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน