ตัวแทนชาวไร่ยาสูบเหนือ-อีสาน ลั่นไม่เอาภาษีบัตรทอง ซัดรัฐบาลซ้ำเติมเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย หลังกระทรวงการคลังไฟเขียวเพิ่ม ภาษีบุหรี่ ทำให้อุตสาหกรรมบุหรี่ที่ตกต่ำอยู่แล้วกลับตกต่ำลงไปอีก
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย จำนวน 30 คน นำโดย นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบ จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมายื่นหนังสือให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน อ่านข่าว : คลังไฟเขียว! เพิ่มภาษีบุหรี่ หนุนกองทุนบัตรทอง คาดนำเข้าจาก 60บาท ทะลุ90บาท
ชาวไร่ยาสูบค้านขึ้น ภาษีบุหรี่
นายกฤษณ์ กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มของตนเดินทางยื่นหนังสือเพื่อคัดค้านกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่าง พ.ร.บ.จัดเก็บเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยงานบริการภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือเรียกอีกอย่างว่า “ภาษีบัตรทอง 2 บาท” ซึ่งการที่จะเก็บเงินจากบุหรี่ซองละ 2 บาทเข้ามาสมทบ พ.ร.บ.ดังกล่วา จะทำให้อุตสาหกรรมบุหรี่ที่ตกต่ำอยู่แล้วยิ่งตกต่ำลงไปอีก
“ปัจจุบันราคาบุหรี่ซองละ 60 บาท จะเสียภาษีอัตราร้อยละ 20 ถ้าบวกอีก 2 บาท ราคาบุหรี่จะปรับเป็นร้อยละ 40 ซึ่งจะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะราคาจำหน่ายบุหรี่จะแพงขึ้นเป็นซองละ 90 บาท คนสูบจะหันไปสูบบุหรี่นอก ก็จะเข้ามาตีตลาดบุหรี่ไทยซ้ำเติมความเดือดร้อนไปอีก” นายกฤษณ์ กล่าว
ชาวไร่ยาสูบค้านขึ้น ภาษีบุหรี่
ด้าน นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า พวกเราชาวไร่ยาสูบตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน หันไปทางไหนก็ไม่มีใครช่วยเหลือ จะหวังพึ่งรัฐบาลหรือพรรคการเมืองต่างๆ ก็พึ่งไม่ได้แล้ว วันนี้จึงต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ร่างกฎหมายอยุติธรรมนี้ด้วยตัวเอง เพราะเราไม่ยอมให้ใครมาทำลายอาชีพของเราอย่างแน่นอน
