“บิ๊กลือ” แถลงนโยบายเชิงโอวาท ให้กำลังพล นำ ทร.ตามยุทธศาสตร์ 20 ปี พร้อมกระตุ้นให้กำลังพลทำงาน Stop the Past, Start the New. “หยุดสิ่งร้ายในอดีต เริ่มสิ่งที่ดีงามเพื่อความวัฒนาถาวร”

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้แถลงนโยบายเชิงโอวาท ประจำปีงบประมาณ 2562 แก่กำลังพลกองทัพเรือ ประกอบด้วย นายทหารชั้นนายพลเรือ ผู้บังคับหน่วยกำลังรบ ผู้บังคับการเรือชั้น 3 ขึ้นไป นักศึกษาหลักสูตรของกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ 2561 -2562 นักเรียนนายเรือ ชั้นปีที่ 5 และนักเรียนบังคับบัญชาทุกชั้น รวมถึงนักเรียนบังคับบัญชานักเรียนจ่าทหารเรือทุกสายวิทยาการ รวมทั้งสิ้น 1,107 นาย

ทั้งนี้ผบ.ทร. ได้มอบนโยบาย เน้นย้ำในภาพรวมให้อยู่บนพื้นฐานของการดำรงจุดมุ่งหมายในการบรรลุเป้าหมาย และวิสัยทัศน์กองทัพเรือ พ.ศ.2579 ที่ว่า “เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ” โดยการนำยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ 10 ปี พ.ศ.2558 – 2567 ที่มีจุดมุ่งในการกำหนดบทบาทหลักของกองทัพเรือ ใน 10 ปีข้างหน้า และยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579

ซึ่งให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อให้กองทัพเรือมีกำลังรบที่เหมาะสม และพร้อมปฏิบัติการทั้งสองฝั่งทะเล และสามพื้นที่ปฏิบัติการทัพเรือภาคอย่างสมดุล ถ่ายทอดไปสู่การปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินการ เพื่อตอบสนองแนวความคิดทางยุทธศาสตร์และบทบาทกองทัพเรือไว้5 ประการ คือ 1.ปกป้องสถาบัน 2.ป้องกันประเทศทางทะเล 3.สนับสนุนการรบทางบก 4.การรักษาผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงทางทะเล และ5.การพึ่งพาตนเอง การพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน

โดยผบ.ทร.ได้ขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติตามที่สมเด็จพระสังฆราชทรงย้ำให้ประชาชนคนไทยรู้รักสามัคคี โดยฝากภาษิตธรรม “สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา” ซึ่งแปลความว่า “ความพร้อมเพรียงแห่งชน ผู้อยู่รวมกันเป็นหมู่ ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ” เพื่อร่วมสร้างพลังอันเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป

สำหรับนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ในภาพรวมอยู่บนพื้นฐานของการดำรงจุดมุ่งหมายในการบรรลุเป้าหมาย และวิสัยทัศน์กองทัพเรือ พ.ศ.2579 ที่ว่า “เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ” โดยการนำยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ 10 ปี ที่มีจุดมุ่งในการกำหนดบทบาทหลักของกองทัพเรือ ใน 10 ปีข้างหน้า ได้แก่ บทบาทในการปฏิบัติทางการทหาร (Military Role) บทบาทในการรักษากฎหมายและการช่วยเหลือ และบทบาทในกิจการระหว่างประเทศ (Diplomatic Role) และยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ระยะ 20 ปี

ซึ่งให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อให้กองทัพเรือมีกำลังรบที่เหมาะสม และพร้อมปฏิบัติการทั้งสองฝั่งทะเลและสามพื้นที่ปฏิบัติการทัพเรือภาคอย่างสมดุล ตามแนวคิดระดับยุทธศาสตร์ว่า “สองฝั่งมหาสมุทรและสามพื้นที่ปฏิบัติการ” หรือ Two Oceans and Three Areas, (OOAAA/Double O Triple A)” ถ่ายทอดไปสู่การปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินการ เพื่อตอบสนองแนวความคิดทางยุทธศาสตร์และบทบาทกองทัพเรือ

ในภาพรวมนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ยังดำรงการปฏิบัติในการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) การดำเนินการตามกรอบงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)

โดยมีกรอบทิศทางและแนวทางการปฏิบัติสำหรับขึ้นตรงกองทัพเรือที่มุ่งพัฒนา ด้านองค์บุคคล “จิตใจที่เข้มแข็งและดีงาม ล้านอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์” ด้านองค์วัตถุ “กำลังรบต้องมีขีดความสามารถสมบูรณ์ในตัวเอง Expeditionary Force” ด้านองค์ยุทธวิธี “สปิริต นักรบชาวเรือ” และ ด้านการบริหารจัดการ “มีโครงสร้างกำลังรบที่เหมาะสม ยกระดับการบริหารจัดการที่โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม และมีคุณธรรมจริยธรรม” อันเป็นการปฏิบัติที่สืบสานปณิธานของบรรพบุรุษทหารเรือไปสู่การบรรลุภารกิจ และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับภาพ “รับไม้ (ผลัด) ไร้การสะดุด” รวมทั้งสะท้อนค่านิยมของกองทัพเรือ “SAIL” ให้ปรากฏสู่สายตาประชาชน ภูมิภาค และประชาคมโลก เพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคม เป็น “กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภูมิใจ”

ในเรื่องของกรอบทิศทางของนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่กำหนดนี้ มีความสอดคล้องกับนโยบายกองทัพเรือ ที่ได้ดำเนินการจัดทำตามกระบวนการจัดทำนโยบายโดยกรมฝ่ายอำนวยการ และหน่วยรับผิดชอบ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ 2562 ได้กำหนดเป้าหมายสำคัญเพิ่มเติมให้ครอบคลุมการปฏิบัติอย่างสอดคล้องตามสภาวการณ์ในปัจจุบัน ตลอดจนเน้นความสำคัญในงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วนทั้งด้านยุทธศาสตร์ ยุทธการ และกลยุทธ์สนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายกองทัพเรือ ให้บรรลุตามเป้าหมาย และมุ่งตรงสู่เป้าหมายสุดท้ายตามวิสัยทัศน์ได้อย่างประสานสอดคล้อง และเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด

การขับเคลื่อนนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายนั้น มีกลไกที่สำคัญ ได้แก่ กรมฝ่ายอำนวยการและหน่วยที่เกี่ยวข้อง จะต้องทำหน้าที่ในการถ่ายทอดไปสู่การปฏิบัติที่มีความเป็นรูปธรรม มีแผนงาน โครงการ และกิจกรรมรองรับ ตลอดจนกำกับดูแล ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังจำเป็นต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากหน่วยงานต่าง ๆ และกำลังพลของกองทัพเรือทุกนายปฏิบัติตามที่สมเด็จพระสังฆราชทรงย้ำให้ประชาชนคนไทยรู้รักสามัคคี โดยฝากภาษิตธรรม “สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา” ซึ่งแปลความว่า “ความพร้อมเพรียงแห่งชน ผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ” เพื่อร่วมสร้างพลัง อันเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลต่อไป Stop the Past, Start the New.
“หยุดสิ่งร้ายในอดีต เริ่มสิ่งที่ดีงามเพื่อความวัฒนาถาวร”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน