ศูนย์สืบนครบาลจับหนุ่มแสบ เปิดเฟซตุ๋นขายอะไหล่รถ-เหยื่อเพียบ

ศูนย์สืบนครบาลจับหนุ่มแสบ เปิดเฟซตุ๋นขายอะไหล่รถ-เหยื่อเพียบ

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. สั่งการให้พ.ต.อ.กฤษณะ วัฒนะธำรงค์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ รองผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน รอง.สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.กรธน จันทรพร รอง.สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร.ต.ท.วสันต์ บุญรอด รอง.สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และชุดสืบสวนกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมนายอนิวัตติ์ หรือแม็ค จุลกะเศียร อายุ 30 ปี ชาวอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ อดีตช่างซ่อมรถอู่รถยนต์แห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 871/2561 ลงวันที่ 24 เม.ย.61 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านพัก ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เม.ย. มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท หลังถูกนายเอ ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง โพสต์ข้อมูลในเว็บไซต์ว่ามีห้องว่างให้เช่าอยู่บริเวณซอยรางน้ำ จากนั้นติดต่อผ่านเบอร์ผู้ก่อเหตุแล้วโอนเงิน 4,000 กว่าบาท บริเวณร้านสะดวกซื้อ สาขาสวนสันติภาพ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งทราบว่าไม่มีห้องพักดังกล่าวอยู่จริง จึงแจ้งความไว้เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา จากการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้เสียหายถูกคนร้ายก่อเหตุทราบว่า เป็นของนายอนิวัตดิ์ ทางพนักงานสอบสวนสน.พญาไท จึงได้ออกหมายจับดังกล่าว

จากการตรวจสอบข้อมูลชื่อผู้ต้องหาดังกล่าวยังพบว่ามีผู้เสียหายติดต่อซื้อขายอะไหล่รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม ในราคาประมาณ 3,000 บาท ได้โอนเงินไปให้ก่อนและรอรับสินค้า แต่เมื่อโอนไปให้แล้วกลับไม่มีการติดต่อกลับมาพร้อมทั้งไม่ได้สินค้าที่สั่งซื้อไปแต่อย่างใด รวมถึงโพสต์หลอกขายรถจักรยานยนต์ผ่านเฟซบุ๊กอีก 9 คันราคาไม่เกิน 7,000 บาทผ่านเฟซบุ๊กชื่อ เพียว อะไหล่เก่า

จากการตรวจสอบข้อมูลการสืบสวนเพิ่มเติมพบอีกว่า ยังเคยใช้เฟซบุ๊กชื่อ “รอฟังจากปาก เพี้ยวเพี้ยว” หลอกขายสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อได้รับค่ามัดจำและจะไม่ส่งสินค้าให้แก่ผู้ซื้อ ทำให้ผู้ซื้อได้รับความเดือดร้อน เช่น ได้หลอกขายคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะนำรูปมาหลอกขายให้ผู้อื่นไป แต่ไม่ได้ส่งของไปให้ จากการตรวจสอบปัจจุบันนายอนิวัตดิ์ ยังคงใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เพียว อะไหล่เก่า (เชียงกงรัตนะวาปี)” อยู่ระหว่างติดต่อซื้อ-ขายอะไหล่รถยนต์เก่า ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยอาศัยช่องว่างทางสังคมออนไลน์เข้าไปแฝงตัว แต่อ้างได้ขายรหัสผ่านเฟซบุ๊ก “รอฟังจากปาก เพี้ยวเพี้ยว” ให้กับนายบังอยุธยา ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี ราคา 6,000 บาท

อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการสืบสวนยังเชื่อได้ว่า นายอนิวัตดิ์ ยังมีบัญชีเฟซบุ๊กอีก 2-3 บัญชีใช้ชื่อว่า “ผู้ชายติดดิน (เชียงกง บางนา)” “ผู้ชาย เปื้อนดิน” “ชัยวัฒน์ อะไหล่ยนต์” ก่อนหน้านี้นายอนิวัตดิ์ ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นนายหน้าขายสินค้าให้ตามเพจขายอะไหล่รถยนต์ต่างๆ จนมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง รายได้อยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 บาทต่อเดือน ทำมาแล้วประมาณ 2 ปี มีรายได้รวมหลายแสนบาท จนมาทราบว่าถูกออกหมายจับและถูกจับกุมได้ดังกล่าว

จากการสอบสวนนายอนิวัตติ์ ยังให้การเพิ่มเติมว่า เคยทำงานที่อู่รถยนต์แห่งหนึ่งในอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงมีความรู้ด้านอะไหล่รถยนต์และอาศัยความรู้ดังกล่าวมาหลอกขายสินค้าหวังเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคายที่ 104/2560 ลงวันที่ 22 มิ.ย.2560 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้น เข้าไปโดยประการใดๆ หรือรับของโจรอีก 1 หมายจับ จากนั้นตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อว่า “เพียว อะไหล่เก่า (เชียงกงรัตนะวาปี)” ก่อนติดต่อล่อซื้ออะไหล่รถยนต์ก่อนสืบทราบจนกระทั่งพบว่านายอนิวัตติ์ได้ใช้บัญชีธนาคารของภรรยาและมีบ้านพักอยู่ที่ จ.สิงห์บุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบและพบตัวนายอนิวัตติ์ จึงทำการแสดงหมายจับและคุมตัวมาสอบสวนต่อยัง กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไท ดำเนินคดี

ด้านพล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าปัจจุบันการการซื้อขายสินค้าในสังคมออนไลน์ มีความสะดวกและรวดเร็วมาก ทำให้ผู้ร้ายแอบแฝงมาในคราบผู้ขายสินค้า หรือพ่อค้าคนกลาง จนทำให้ผู้ซื้อสิ้นค้าไม่สามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายสินค้าได้ ขาดความระมัดระวังกลโกง เล่ห์เหลี่ยมในหลายรูปแบบ จนตกเป็นผู้เสียหายได้ เมื่อถูกหลอกขายสินค้าแล้ว ให้ผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเอาไปแจ้งความ เช่นวันเวลาประวัติการแช็ตซื้อขายสินค้าในสื่อต่างๆ วันเวลาการประกาศขายสินค้า บัตรประชาชนคนขายสินค้า หมายเลขบัญชีคนขาย หมายเลขโทรศัพท์ผู้ขายสินค้า หลักฐานอื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป