สุวรรณภูมิสั่งปิดรันเวย์ยาวถึงบ่าย 4 หลังเครื่องบินไทยไถลติดหล่มโคลน เผย 50 เที่ยวบินวุ่น ต้องบินวน เร่งประสานสายการบินเลื่อนเวลาลงจอด เหลือรันเวย์เดียว คมนาคมเร่งสอบเหตุ

เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์พื้นที่รันเวย์

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายสมนึก รงค์ทอง ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทวิทยุการบินจำกัด (บวท) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการการจราจรทางอากาศแก่สายการบิน ประเทศไทยเปิดเผยถึงกรณีที่เที่ยวบินทีจี 679 ไถลออกนอกรันเวย์ว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากหอบังคับการบินสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ว่าในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า

สภาพการจราจรทางอากาศก่อนที่การบินไทยจะนำเครื่องร่อนลงจอดที่รันเวย์ ฝั่งตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิมีสภาพปกติ สามารถมองเห็นทางวิ่งได้ตามระดับการมองเห็นมาตรฐานความปลอดภัย แต่มีฝนตกขณะลงจอด อ่านข่าว บินไทยแจง! หลังเหตุระทึก! โบอิ้ง ‘กวางโจว-กรุงเทพ’ ไถลออกรันเวย์สุวรรณภูมิ

ทำให้เมื่อเครื่องร่อนลงจอดจึงไถลออกนอกรันเวย์จนล้อติดอยู่ในโคลน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเครื่องบินได้ สนามบินสุวรรณภูมิจึงประกาศปิดรันเวย์ฝั่งตะวันตก เพื่อให้บริษัทการบินไทยมาเคลื่อนย้ายออกจากรันเวย์ ทำให้เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 ต.ค. เกิดปัญหาในการลงจอดของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีเที่ยวบินที่จะต้องลงจอดที่สนามบินประมาณ 45 ถึง 50 เที่ยวต้องบินวน เพื่อรอที่จะลงจอด ทำให้เกิดปัญหาการดีเลย์ทุกเที่ยวบินประมาณเที่ยวบินละ 10 นาที อ่าน : บินไทยระทึก! เครื่องโบอิ้ง ‘กวางโจว-กรุงเทพ’ ไถลออกนอกรันเวย์สุวรรณภูมิ ผู้โดยสารเจ็บ

เนื่องจากรันเวย์ฝั่งตะวันตกถูกปิด ทำให้สนามบินเหลือรันเวย์ที่จะให้บริการเพียงหนึ่งรันเวย์ โดยภายหลังการเกิดเหตุได้ประสานให้กลับเที่ยวบินทุกเที่ยวบิน ที่จะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิหันมาใช้รันเวย์ทางฝั่งตะวันออกแทน ทำให้เกิดปัญหาการลงจอดที่ขับข้างเนื่องจากสายการบินต่างๆ จะต้องมีการต่อคิวเพื่อขอลงจอด

“ขณะนี้ทางสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งปิดรันเวย์ฝั่งตะวันตก ไปตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณ 22.30 น. วันที่ 8 ต.ค. โดยประกาศที่จะปิดรันเวย์ตะวันตกไปจนถึงเวลา 14.00 น. ของวันนี้ ซึ่งจะต้องดูว่าการบินไทยจะสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องบินที่จอดคารันเวย์ออกได้หรือไม่ โดยกำลังเร่งประสานไปยังสายการบินที่จะลงจอดในช่วงเช้าจนถึงบ่ายสอง ที่ปิดรันเวย์เพื่อขอเลื่อนเวลากันบิน โดยขณะนี้กำลังทยอยแจ้งปรับเวลาการลงจอด ซึ่งปกติอาจจะมีเครื่องบินที่บินขึ้นและลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิเฉลี่ยวันละ 8-9 ร้อยเที่ยวบิน” นายสมนึก กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุของการไถลออกนอกรันเวย์ของเที่ยวบินทีจี 679 นั้น ขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเกิดจากสาเหตุใด

รายงานข่าวจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่าเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์นั้น เกิดขึ้นเพราะขนาดนั้นมีสภาพฝนตก ทำให้เรื่องลื่นไถลออกนอกรันเวย์ โดยล้อหน้าและล้อหลังซ้ายลงไปติดที่โคลน เบื้องต้นการบินไทยประสานไปยังกรรมการสอบสวนเหตุอากาศยานเกิดอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคม เพื่อขออนุญาตเข้าพื้นที่เพื่อเคลื่อนย้ายเครื่องบินออกจากรันเวย์

โดยเมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา คณะกรรมการแจ้งอนุญาตให้การบินไทยเข้าไปดำเนินการประเมิน เพื่อหาทางในการเคลื่อนย้ายเครื่องบินออกจากรันเวย์ เบื้องต้นการบินไทยนำรถแทร็กเตอร์และเบาะเป่าลม เข้าไปยังวันเวย์แล้ว

โดยขั้นตอนแรกจะต้องถ่ายน้ำมันที่มีน้ำหนักประมาณ 10 ตัน ออกจากเครื่องซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องบินมีเบาน้ำหนักเบา จากนั้นจะใช้เบาะเป่าลม เพื่อยกเครื่องบินให้ล้อสูงขึ้นจากพื้น และใช้แผ่นเหล็กสอดด้านล่าง ทำเป็นพื้น จากนั้นจะใช้รถแทร็กเตอร์ดึงเครื่องบินออกจากรันเวย์ คาดว่าจะสามารถเคลื่อยย้ายเครื่องบินออกจากนอกรันเวย์ช้าที่สุดไม่เกิน 14.00 น. ของวันนี้

รายงานข่าวจาก ทอท.ผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิเปิดเผยถึงกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเกิดเหตุซ้ำกับเที่ยวบินของการบินไทย ที่ลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อหลายปีก่อน นั้นขอชี้แจงว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นฝั่งรันเวย์ด้านฝั่งตะวันตก แตกต่างจากในอดีตที่เกิดเหตุขึ้นบริเวณรันเวย์ฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นคนละด้านกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน