หน.อุทยานน้ำตกพลิ้วยัน ปลาพลวงไม่ได้ผอม แจงอยู่แบบสมดุล หลังห้ามให้อาหาร 

หน.อุทยานน้ำตกพลิ้วยัน ปลาพลวงไม่ได้ผอม แจงอยู่แบบสมดุล หลังห้ามให้อาหาร

ปลาพลวงไม่ได้ผอม – เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายพิทักษ์ อินทศร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว กล่าวถึง กรณีที่ เพจเฟซบุ๊กวง เรโทรสเปกต์ (Retrospect) เผยภาพ “ปลาพลวง” ที่สภาพร่างกายผอมจนเหลือแต่กระดูก พร้อมกับข้อความระบุว่า ”ปลาพลวงที่น้ำตกพลิ้ว ผอมจนเหลือแต่กระดูก และกำลังจะตายไป ว่า ไม่แน่ใจว่าคนที่ถ่ายภาพปลาพลวงแล้วเอามาโพสต์นั้นเป็นภาพถ่ายตั้งแต่เมื่อไร

แต่อยากจะชี้แจงว่า เวลานี้ ฝูงปลาพลวงในน้ำตกพลิ้ว เริ่มเข้าสู่กระบวนการความสมดุลในธรรมชาติแล้ว มีหลักการคือ ธรรมชาติจะเป็นตัวคัดเลือกว่าปลาตัวไหนที่มีความแข็งแรงที่สามารถอยู่ได้ ปลาตัวไหนที่อ่อนแอก็ตายไป

ปลาพลวงไม่ได้ผอม

“เมื่อราว 2-3 ปี ก่อนหน้านี้ สมัยที่ยังเป็นผู้ช่วยอยู่ที่นี่ เป็นช่วงเริ่มต้น ที่มีการประกาศจากกรมอุทยานฯเรื่องห้ามให้อาหารสัตว์ในธรรมชาติ ตั้งแต่ลิง ช้าง มาถึงปลา ซึ่งในตอนนั้น ปลาพลวง ในน้ำตกพริ้วหนาแน่นมาก ช่วงแรกนักท่องเที่ยวให้อาหารเม็ด พอฤดูแล้ง น้ำน้อย อาหารเม็ดทำให้น้ำสกปรก

ต่อมาเปลี่ยนเป็นถั่วฝักยาว ช่วงนั้นปลาอ้วนท้วนและหนาแน่นน้ำตก แต่มีพฤติกรรมไม่ใช่พฤติกรรมของปลาธรรมชาติ แต่เป็นพฤติกรรมของปลาเลี้ยง เมื่อมีประกาศของกรมออกมา เราห้ามนักท่องเที่ยวให้อาหารปลาเด็ดขาด ยอมรับว่า ช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปีแรก ผมเองรู้สึกสงสารปลามาก

น้ำตกพลิ้ว

แต่ทางนักวิชาการชี้แจงมาว่า สิ่งที่อุทยานฯดำเนินการอยู่นั้นถูกต้องแล้ว เป็นการปรับพฤติกรรมสัตว์ให้เข้าสู่ภาวะสมดุล ซึ่งเวลานี้ มั่นใจว่า ปลาพลวงน้ำตกพลิ้ว เข้าสู่ภาวะสมดุล เป็นปลาในธรรมชาติ ไม่ใช่ปลาเลี้ยงเหมือนแต่ก่อนแล้ว”นายพิทักษ์ กล่าว

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว กล่าวว่า ประชาชน ไม่ต้องเป็นห่วงว่า ไม่มีใครให้ปลากินถั่วฝักยาวแล้ว ปลาจะอด แต่โดยธรรมชาติปลามีอาหารอยู่แล้ว คือ ลูกมะเดื่อ รากไม้ ที่ไหลมากับน้ำตก ซึ่งมีมากพอกับปริมาณปลาที่มีอยู่เวลานี้ และหลังจากนี้ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่า ปลาพลวงจะเจริญเติบโต และมีชีวิตอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืน