ที่ธรณีสงฆ์ 2ผัวเมียลมแทบจับขายทาวเฮ้าส์ 2 หลัง ย่านคลอง3 เก็บเงินซื้อบ้านจัดสรรอยู่ ผ่านมา 1 ปีจึงรู้ว่าเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ ไม่สามารถซื้อขายและให้ใครเป็นกรรมสิทธิ์ได้

ที่ธรณีสงฆ์ / เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ร.ท.โรมรัน ศรีวงษ์ชัย ผู้รับมอบอำนาจและผู้เสียหายกรณีการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินหมู่บ้านราชธานีคลองหลวง ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรรราชธานีเป็นที่ธรณีสงฆ์ ได้รวบรวมเอกสารเพิ่มเติม เพื่อเตรียมให้กับสำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาคลองหลวง เป็นหลักฐานรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสียหายที่ได้รับ

บ้านจัดสรร ที่ดินธรณีสงฆ์

และจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่ต้องการของสมาชิกผู้ได้รับความเสียหาย จำนวน 48 ราย ซึ่งมีเอกสารพร้อม รวมเป็นเงินจำนวน 277 ล้านบาท เพื่อส่งมอบให้กรมที่ดินพิจารณาตัดสินว่าจะได้รับค่าสินไหมหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะตัดสินภายในวันที่ 22 ธ.ค.2561

จากการสอบถามนายภูวดล บุญหาญ อายุ 31 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านราชธานี กล่าวว่า ตนประกอบธุรกิจส่วนตัวรับซ่อมแผงวงรอิเล็กทรอนิกส์เก็บเงินซื้อบ้าน โดยตนเและครอบครัวมีทาวน์เฮ้าส์ 2 หลัง ย้ายจากคลอง3 ขายบ้านเพื่อนำเงินมาซื้อบ้านในหมู่บ้านนี้มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว

หลังจากที่ซื้อบ้านได้ 1 ปี จึงทราบว่าที่ดินนี้ มีข้อพิพาทกรณีธรณีสงฆ์ ทำให้มีความกังวลว่าที่ดินนี้ไม่ใช้ของเรา 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่สามารถซื้อขายและให้ใครเป็นกรรมสิทธิ์ได้

ส่วนน.ส.นิตยา แสนศรี อายุ 31 ปี ภรรยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะฝากในเรื่องความชัดเจนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนและครอบครัวได้รับผลกระทบโดยตรงเลย เนื่องจากขายทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นบ้าน 2 หลัง เพื่อที่จะมาซื้อในที่ที่ไม่สามารถเป็นของเราได้ ความรู้สึกที่ทราบข่าวครั้งแรกเหมือนล้มทั้งยืน เราทำงานเก็บเงินเพื่อที่จะมาซื้อบ้าน ที่กลายเป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ โดยไม่สามารถครอบครองได้

“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นใจพวกเราชาวบ้าน จะชดเชยหรือเยี่ยวยาอย่างไร ให้เกิดความชัดเจน ทุกวันนี้ทำงานหาเก็บเงินจ่ายค่างวดบ้านในแต่ละเดือน ก็ไม่รู้ว่าบ้านนี้จะได้เป็นของเรา 100 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า หากเราเช่าบ้านอยู่ก็คงดีกว่านี้” น.ส.นิตยา กล่าว

ด้าน ร.ท.โรมรัน ศรีวงษ์ชัย ผู้รับมอบอำนาจและผู้เสียหายกรณีการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินหมู่บ้านราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องการร้องเรียนกรณีปัญหาพื้นที่ธรณีสงฆ์มีความคืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางชาวบ้านไปยื่นเอกสารเพิ่มเติม เพื่อแจ้งความประสงค์ที่แท้จริงให้กับสำนักงานที่ดินคลองหลวง โดยมีนายรชต จันทร์ทอง นักวิชาการชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาคลองหลวง เป็นผู้รับเอกสารหลักฐานของชาวบ้าน

ซึ่งก่อนหน้านั้นทางกรมที่ดินมีหนังสือมาถึงตนเองว่า การพิจารณาค่าสินไหมที่ชาวบ้านเรียกร้องไปนั้น จะสิ้นสุดการพิจารณาภายในวันที่ 22 ธ.ค.61 ชาวบ้านจะได้รับค่าสินไหมหรือไม่ หากได้รับ จะได้รับเต็มจำนวนหรือไม่ หรือรับเท่าไร หากไม่ได้รับจะมีกระบวนการช่วยเหลืออย่างไรต่อไป โดยทางกรมที่ดินจะมีหนังสือแจ้งมาที่ชาวบ้านอีกครั้งหนึ่ง

“ระหว่างที่ชาวบ้านดำเนินเรื่องร้องเรียนเรียกร้องค่าสินไหนนั้น มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายหลายอย่าง ซึ่งความเดือดร้อนที่ชัดเจนที่สุดคือ เราไม่สามารถที่จะดำเนินการทางธุรกรรมกับสถาบันการเงินได้เลย แม้ว่าโฉนดที่ดินจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเราแล้วก็ตาม หมดภาระผูกพันกับสถาบันการเงินแล้ว แต่เมื่อเราต้องการเงินจำนวนหนึ่งที่จะไปลงทุน ไม่สามารถที่จะเอาโฉนดนี้ไปจำนองกับสถาบันการเงินได้เลย แม้แต่นิดเดียว แต่ภายในหมู่บ้านมีการประกาศซื้อขายกันตามปกติ แม้แต่สำนักงานที่ดินคลองหลวงยังบอกว่า สามาถที่จะซื้อขายถ่ายโอนโฉนดกันได้ แม้เราเป็นชาวบ้านจะทักท้วงไปแล้วว่า ที่ดินนี้ยังมีข้อพิพาทเรื่องที่ดินธรณีสงฆ์ ควรจะสลักหลังโฉนดให้ทราบว่าที่ดินบริเวณนี้อยู่ในระหว่างข้อพิพาท จะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคได้พิจารณาให้ถี่ถ้วน และจะไม่มีใครตกเป็นเหยื่อเพิ่มอีก” ร.ท.โรมรัน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน