แพทย์ม.อ.เจ๋ง คิดค้น ทวารเทียม ใช้วัตถุดิบจากยางพารา ได้สำเร็จ!

แพทย์ม.อ.เจ๋ง! วันที่ 10 ต.ค. โรงพยาบาลตรัง ให้การต้อนรับทีมแพทย์และพยาบาล จากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) นำโดย ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ พร้อมด้วยทีมงานในโครงการ THAI Colostomy Bags “จากคนไทย สู่คนไทย” เพื่อมอบชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจาก ทวารเทียม ที่คิดค้นขึ้นโดย ผศ.นพ.วรวิทย์

รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากทีมสหสาขาต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชน จนสามารถผลิตชุดอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ

ผศ.นพ.วรวิทย์ กล่าวว่า การคิดค้นชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมในครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีการตัดลำไส้ทิ้ง เนื่องจากภาวะการเป็นมะเร็งลำไส้ ทำให้ไม่สามารถขับถ่ายทางทวารหนักตามปกติได้ โดยนำเอาผลผลิตของยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคใต้มาประยุกต์ใช้ จนเป็นผลสำเร็จ

ทำให้สามารถลดต้นทุนในการสั่งซื้อชุดทวารเทียมจากต่างประเทศ และช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา แต่ยังคงคุณภาพและประสิทธิภาพที่ได้มาตรฐานและเทียบเท่าชุดอุปกรณ์ทวารเทียมจากต่างประเทศ

ปัจจุบันชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียม มีอยู่หลากหลายชนิด และหลายชื่อทางการค้า โดยต่างนำเสนอรูปแบบตามความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย ส่วนราคาก็มีความแตกต่างกันตามชนิดและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ประกอบกับประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตอุปกรณ์ชนิดนี้ได้เองในเชิงอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้า และภาครัฐต้องเสียงบประมาณสูง

แม้จะมีโรงพยาบาลหลายแห่งได้ดัดแปลงอุปกรณ์ใช้แทนถุงทวารเทียม แต่ก็ประสบปัญหาระหว่างการใช้ และมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ระคายเคือง แป้นรั่วซึม หลุดง่าย

จากการศึกษาของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ช่วงปี 2556-2558 พบว่า ราคาแผ่นติดผิวหนังรอบทวารเทียมจัดเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่มีราคาแพง ตั้งแต่แผ่นละ 122-188 บาท ตามขนาดและชื่อของผลิตภัณฑ์ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจำกัดปริมาณการสั่งซื้อ แค่เดือนละ 5 แผ่น/คน ทำให้ผู้ป่วยหรือญาติจำเป็นต้องเดินทางมาติดต่อซื้อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์บ่อยครั้ง และมีจำหน่ายเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆ บางแห่งเท่านั้น จึงเกิดความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงการบริการ

ประกอบกับกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการผลักดันให้ไทยในฐานะผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ สามารถผลิตวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์หลากหลายชนิด รวมทั้งแผ่นติดผิวหนังรอบทวารเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ ช่วยให้ผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลแห่งอื่นทั่วประเทศ เข้าถึงบริการได้โดยง่ายอย่างเท่าเทียมกัน

อีกทั้งยังเกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วย และมีความปลอดภัยสูงสุด พร้อมกันนั้น ยังได้ให้ความรู้แก่บุคลากรสาธารณสุข และผู้ป่วยในโรงพยาบาลตรัง ในเรื่องการดูแลทวารเทียม และการใช้ชุดอุปกรณ์ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน