เปิดใจพยาบาลสาว โดนโชเฟอร์ รถตู้ตบหน้า แค่คุยโทรศัพท์ในรถ เล่านาทีระทึก จู่ๆ เดินมาถาม “มึงว่าอะไรกู” พร้อมกับตบจนหน้าสั่น ด้านตร.เรียกให้มาพบ สุดท้ายกลับเบี้ยว
รถตู้ตบหน้า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Mai Nur ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอ หลังถูกคนขับรถตู้ หมายเลขข้างรถ ม2/จ/12-103 รถร่วม บขส(จ) 10-2748 กทม. สายกรุงเทพ-ลพบุรี ตบหน้าอย่างจังโดยไม่มีสาเหตุ บริเวณตรงข้ามห้างสรรพสินค้า ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 11 ต.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว โคตรเถื่อน! พยาบาลสาวงง โดยสารรถดีดี เจอคนขับรถตู้ตบหน้าสั่น (คลิป) อ่านข่าว นายท่าเผย คนขับรถตู้ตบหน้าสาว ปกตินิสัยดี ใจเย็น ชี้เพิ่งเลิกกับเมียเลยเครียด
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อาชีพพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรสาคร เข้าพบ ร.ต.ท.รุจจิโรจน์ กิตติกนกกาญจน์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและระบุภาพคนขับรถผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว ส่วนผู้ก่อเหตุยอมรับว่าได้ตบหน้าจริงและได้นัดเข้าพบพนักงานสอบสวน แต่กลับเปลี่ยนใจไม่สามารถติดต่อได้
ผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดเชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำฬาลงกรณ์
จากการสอบถาม น.ส.เอ กล่าวว่า ตนขึ้นรถตู้มาจากวังน้อย เพื่อที่จะมาต่อรถที่รังสิต เมื่อมาถึงบริเวณหน้าเมเจอร์รังสิตจึงลงจากรถ แต่จู่ๆ คนขับได้เดินลงมาจากรถพร้อมตะโกนถามว่า “มึงว่าอะไรกู” ตนซึ่งเดินอยู่คิดว่าคนอื่นเขามีเรื่องกันไม่คิดว่าจะเป็นตน จึงหันไปมอง แล้วคนขับก็ใช้มือขวาตบหน้าตนอย่างแรง จนหน้าชา มึนงง
ภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ
จากนั้นคนขับยังถามอีกว่า “มึงว่าอะไรกูอยู่แบบนี้อีก” ตนก็งงไม่ทราบว่าไปว่าอะไรเขาตอนไหน เมื่อตนมาทบทวนเหตุการณ์ขณะที่อยู่บนรถตนก็ไม่ได้พูดถึงคนขับเลย มีเพียงแต่ตนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเท่านั้น แต่ก็เป็นเพียงเรื่องงานเท่านั้น ไม่มีการต่อว่าอะไรใครทั้งสิ้น ต้องยอมรับว่าตนโทรศัพท์ขณะอยู่บนรถ อยากถามคนขับรถคนดังกล่าวว่าสาเหตุที่ตบหน้าคืออะไร
ด้าน พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดเชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของการติดตามผู้ก่อเหตุเราทราบหมายเลขทะเบียนรถตู้ดังกล่าว ซึ่งวิ่งระหว่างกรุงเทพ-ลพบุรี ได้ประสานงานไปยังนายท่าเดินรถตู้ของผู้ก่อเหตุที่ จ.ลพบุรี ทราบตัวผู้ขับขี่ ทางนายท่าได้ติดตามทราบว่าผู้ขับขี่ได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากบันดาลโทสะด้วยอารมณ์โกรธ
และวันนี้นัดจะมาพบพนักงานสอบสวน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ทราบจากเพื่อนของผู้ขับขี่ว่าเห็นมีสื่อออกไปหลายแห่ง ผู้ก่อเหตุจึงตกใจ ที่มีการเผยแพร่ทางสื่อเยอะ ตำรวจจะได้ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเดินคดีตามกฎหมาย ทางผู้เสียหายนอกจากแจ้งดำเนินคดีอาญาแล้วยังสามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้อีก
