ฟังเสียงหนุน-ค้าน สร้างถนนคอนกรีตขึ้นพะเนินทุ่ง ชมความงามอุทยานฯแก่งกระจาน

พะเนินทุ่ง – เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกฯสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน แถลงการณ์คัดค้านการสร้างถนนคอนกรีตขึ้นเขาพะเนินทุ่งฆาตกรรมสัตว์ป่า ว่า ตามที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และสาขาเพชรบุรี ว่าจ้างผู้รับเหมาให้ปรับปรุงเส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวเขาพระเนินทุ่งจากถนนดินลูกรังให้เป็นถนนลาดยางคอนกรีต ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา มีระยะเวลาในการก่อสร้าง 560 วัน เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อแนวทางการอนุรักษ์และขัดต่อกฎหมายอย่างร้ายแรง ทำลายผืนป่าว่าที่มรดกโลก ซึ่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติปล่อยให้เกิดโครงการประเภทนี้ได้อย่างไร

เสียงหนุน-ค้าน สร้างถนนพะเนินทุ่ง

เสียงหนุน-ค้าน สร้างถนนพะเนินทุ่ง

เพราะป่าแก่งกระจานเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีสัตว์ป่าและพรรณพืชมากมาย ตั้งแต่สัตว์ป่าขนาดเล็ก ผีเสื้อ ตุ๊กแกบางชนิด และมีนกกะลิงเขียดหางหนามที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย ไปจนถึงมีหมี เสือดาว เสือโคร่ง ช้างป่า จระเข้ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่สำคัญการจัดทำโครงการฯดังกล่าวไม่มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ไม่มีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด

กรมอุทยานฯเป็นหน่วยงานอนุรักษ์แต่กลับละเมิดกฎหมายเสียเอง ซึ่งสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ไม่อาจยอมรับได้ จึงขอเรียกร้องไปยังอธิบดีกรมอุทยานฯ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ และนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจในการสั่งให้ทบทวนและระงับโครงการฯดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน หากยังเพิกเฉยแสดงว่ารัฐบาลรักสิ่งแวดล้อมแต่ปาก หาได้มีความจริงใจไม่ เช่นนั้นสมาคมฯจำต้องร้องเรียนกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และจะนำความขึ้นฟ้องศาลฐานใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ในอดีตถนนเข้าบ้านกร่างยังเป็นถนนลูกรัง สามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เป็นประเภทที่เห็นความสวยงามของธรรมชาติ เข้าไปเสพและเรียนรู้ความงามของสัตว์ป่า และนักท่องเที่ยวแบบเปลี่ยนที่กิน ที่นอน ที่ทำกับข้าว ไปเสพความเย็น ความหนาว ถ่ายรูปแล้วไปเล่าให้เพื่อนฟังว่าไปนอนป่ามาได้มากพอสมควร เพราะถนนบางช่วงเป็นหินโผล่กลางถนน คัดกรองรถเก๋งและขาซิ่งออก นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริง มีโอกาสพบเห็นสัตว์ แต่หลังจากที่มีการสร้างถนนลาดยางเข้าไปถึงบ้านกร่าง ไม่สามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวได้อีก เพราะรถขับกันเร่งรีบ สัตว์ถูกรถชนตายจำนวนมาก

การพบเห็นสัตว์ข้างทางยากขึ้น แต่ยังเหลือถนนลูกรังตั้งแต่บ้านกร่างขึ้นไปพะเนินทุ่งคัดกรองนักท่องเที่ยวได้ แต่ช่วงวันหยุดยังมีนักท่องเที่ยวกางเต็นท์จนแทบไม่มีที่ให้กาง และที่จอดรถ บางช่วงที่คนแห่มาดูทะเลหมอก แม้ไม่อนุญาตให้รถบางประเภทขึ้นไปที่จอดรถยังเต็ม ดังนั้นถ้าโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตต่อไปจนถึงเขาพะเนินทุ่ง จะมีรถยนต์จำนวนมาก มีการเสี่ยงชีวิตของสัตว์ป่าสูงขั้น ปัญหาขยะจะตามมามหาศาลแค่ไหน และเชื่อว่าบิ๊กไบก์ เด็กแว๊นจะตามมา และภาพที่เขาใหญ่ จะเป็นหนังม้วนเดียวกันที่จะมาฉายที่แก่งกระจานอีกที่หนึ่งแน่นอน

ความงามบนพะเนินทุ่ง

ความงามบนพะเนินทุ่ง

ด้าน นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กล่าวกรณีการก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทางสายบ้านกร่างพะเนินทุ่งในอุทยานฯแก่งกระจานตามที่ปรากฏอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ ว่า เส้นทางสายบ้านกร่าง-พะเนินทุ่ง เป็นถนนลาดยางที่มีการก่อสร้างเดิมมาตั้งแต่ปี 2530 แล้ว ขณะนี้ถนนชำรุดยุบตัว หลุดล่อนจนถึงพื้นดิน แม้เคยซ่อมแซมแต่ได้แค่ชั่วคราวและไม่สามารถซ่อมแซมได้ตลอดทาง บางจุดเกิดดินถล่มส่งผลถึงความไม่ปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่

จากเหตุดังกล่าวจึงต้องดำเนินการทำด้วยคอนกรีตเพื่อความคงทนถาวร และมีความกว้าง 4 เมตรเท่าของเดิม รวมระยะทางทั้งหมด 21.9 กิโลเมตร ซึ่งไม่มีการเปิดพื้นที่ก่อสร้างใหม่หรือขยายผิวการจราจร มีการควบคุมรถยนต์ให้ขึ้นลงเป็นเวลาเป็นทางเดียวกัน เพื่อลดอันตรายเนื่องจากถนนแคบรถยนต์สวนทางกันไม่ได้

โดยอุทยานฯ กำหนดให้รถวิ่งขึ้นในช่วงเวลา 05.00 – 07.00 น. จากนั้นจะปล่อยให้รถวิ่งลงตั้งแต่เวลา 10.00 – 12.00 น. และช่วงบ่ายเปิดให้รถขึ้น 13.00-16.00 น. โดยในช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะวิทยุสื่อสารเพื่อดูแลการขึ้นลงของรถยนต์ทั้งหมด

นายมานะ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการถกว่าโครงการดังกล่าวไม่มีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ นั้น อุทยานฯแก่งกระจานดำเนินการเป็นไปตามอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 19 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างที่มีมาแต่เดิม เพียงแต่เป็นการซ่อมแซมให้ดีขึ้นและป้องกันความเสี่ยงในอนาคตจากการทรุดตัวพังทลายลงของดิน และเป็นการยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหาการกัดเซาะดิน การพัดพาตะกอนของดินลงสู่ลำธาร รวมถึงปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่

การซ่อมแซมถนนดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด และเรื่องการเผยแพร่ภาพสัตว์ป่าตายในพื้นที่อุทยานแก่งกระจานฯ ตามที่ได้รับรายงานในปี 2559 พบสัตว์ที่โดนรถชนตาย เป็นสุนัขจิ้งจอก และกระรอก ส่วนปี 2560 และ 2561 จะพบเป็นกระรอกเท่านั้น ส่วนสัตว์ชนิดอื่นคาดว่าอยู่ในพื้นที่อื่น

หัวหน้าอุทยานฯแก่งกระจาน กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเรามีมาตรการป้องกันสัตว์ป่าวิ่งข้ามถนนแล้วโดนรถชน โดยเจ้าหน้าที่ได้กำหนดความเร็วห้ามขับขี่เกิน 50 กม./ชม. พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกการจราจร และตั้งจุดสกัดตรงบริเวณโป่งพรหมซึ่งเป็นจุดที่มีสัตว์ป่าค่อนข้างเยอะ มีการติดตั้งป้ายเตือน และวางกรวยเพื่อให้ชะลอความเร็วด้วย สำหรับความห่วงใยในเรื่องผีเสื้อในช่วงลำธาร ที่มักมีผีเสื้อมาตอมกินเกลือแร่บริเวณเกาะบนถนน อุทยานฯแก่งกระจาน ได้ติดตั้งป้ายเตือนไว้ตลอดสองข้างทางให้ขับรถช้าๆระวังเหยียบผีเสื้อด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน