เสี่ยโรงกลึง ฉุนจัด ถูกหุ้นส่วนสาวทวงเงิน คว้า 9 ม.ม.ยิง พี่ชายเหยื่อกระโดดแย่งปืนถูกกระสุนยิงเข้าหน้าอก 1 นัด ลูกน้องรีบพาขึ้นรถหวังพาส่งโรงพยาบาล ก่อนถูกเสี่ยขับรถตามปาดหน้า กระโดดขึ้นฝากระโปรงรถยิงใส่อีก 2 นัด กระสุนถูกสาวสาหัส ส่วนพี่ชายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ร.ต.อ.กิจจพัฒน์ จิตติราช รองสว.สอบสวน สภ.พุทธมณฑล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิง บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 ม.6 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุธี พรมมาลี ผกก.สภ.พุทธมณฑล ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง

รถของผู้ต้องหาที่ขับตามคู่กรณี ก่อนชักปืนยิงดับ 1 สาหัส 1

รถของผู้ต้องหาที่ขับตามคู่กรณี ก่อนชักปืนยิงดับ 1 สาหัส 1

ที่เกิดเหตุบริเวณเลนขวาใกล้จุดกลับรถของประตู 3 สวนพุทธมณฑล พบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ทะเบียน กง 1706 นครปฐม มีรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่กระจกหน้า 2 รู และรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 1ฒค452 กทม. จอดขวางอยู่หน้ารถ นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บเป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว 2 ราย คือ น.ส.กาญจนา พุ่มสงวน อายุ 42 ปีชาวจ.กาญจนบุรี ถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง ส่วนนายสมพิศ พุ่มสงวน อายุ 55 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี บาดเจ็บสาหัส ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าอก ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ คือ นายพิชัย สุขศิริ อายุ 58 ปี พร้อมปืนขนาด 9 ม.ม. มีกระสุนปืนในแม็กกาซีนอีก 4 นัด ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำ

ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวน นายพิชัย ให้การว่า ตนทำงานรับเหมา และเปิดร้านโรงกลึง ที่เขตทวีวัฒนา กทม. โดยร่วมหุ้นส่วนกันกับ น.ส.กาญจนา ก่อนเกิดเหตุ น.ส.กาญจนาได้มาหาตนพร้อมกับพี่ชาย เพื่อพาคนงานเข้าใหม่มาพักที่โรงกลึง 2 คน ขณะนั้นได้พูดคุยกันถึงเรื่องเงินในธุรกิจ โดย น.ส.กาญจนา ได้เอ่ยปากทวงเงินจากตน เพราะคิดว่าตนเบิกเงิน 2.5 แสนบาทไป

นายพิชัย ให้การต่อว่า ทั้งที่ตนยังไม่ได้ไปเบิกเงินมาแต่อย่างใด ทำให้ น.ส.กาญจนา โกรธเพราะไม่เข้าใจกัน พาลทะเลาะคุยไม่รู้เรื่อง และกลัวว่าทั้ง 4 คนที่มาด้วยกันจะเข้าทำร้าย ตนจึงคว้าปืนยิงใส่ แต่นายสมพิศได้เข้ามายื้อแย่งปืนจึงถูกยิงไป 1 นัดเข้าที่หน้าอก จากนั้น น.ส.กาญจนาและคนงานอีก 2 คนได้วิ่งหลบหนีไป

อาวุธปืนของเสี่ยโรงกลึงที่ใช้ก่อเหตุ

อาวุธปืนของเสี่ยโรงกลึงที่ใช้ก่อเหตุ

ด้าน นายแดง แร่เพชร อายุ 49 ปี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุจึงกลับมาช่วยกันนำตัวนายสมพิศไปส่งโรงพยาบาล โดยใช้เส้นทางพุทธมณฑล สาย 4 แต่ไม่คาดคิดว่า นายพิชัยได้ขับรถไล่ตามมา แล้วปาดขวางหน้ารถ จากนั้น เดินปรี่ขึ้นมายืนอยู่บนหน้าฝากระโปรงรถ พร้อมชักปืนยิงเข้าใส่ทันที 2 นัด โดย น.ส.กาญจนา เอี้ยวตัวหลบทำให้กระสุนเข้าที่ด้านหลังอาการสาหัส

นายแดง กล่าวต่อว่า ขณะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์พร้อมจับกุมตัวนายพิชัย ผู้ต้องหาไว้ได้ แล้วรีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่นายสมพิศ เสียชีวิตในเวลาต่อมา สำหรับประวัติของนายพิชัย ทราบว่า ถูกจำคุกมานานกว่า 8 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2558 ในคดีฆ่าผู้อื่น โดยก่อเหตุเมื่อปี 2549

ตำรวจคุมตัว เสี่ยโรงกลึง มาสอบปากคำ พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์

ตำรวจคุมตัว เสี่ยโรงกลึง มาสอบปากคำ พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน