ขนส่งระยอง สั่งปรับ 2 บริษัท รถตู้ตะลุมบอน กลาง บขส.ระยอง เผยสาเหตุวางมวยกันนัว ชี้ เป็นการกระทำที่ทำลายภาพลักษณ์ ด้าน ผู้บริหาร 2 บริษัท รับผิดพร้อมยืนยันจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก และจะอบรมพนักงานให้ทำงานอยู่ในพื้นที่เดียวกันให้ได้

จากกรณี สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเหตุจาก นายวิรัตน์ เชิดเกียรติ อายุ 33 ปี นายบุญพา พึ่งพระพร อายุ 45 ปี และ น.ส.ขวัญเรือน ตุ้มวิจิตร อายุ 40 ปี ทั้ง 3 คนเป็นพนักงานบริษัทรถตู้โดยสาร CK สายระยอง-จันทบุรี ว่าถูกคนขับรถตู้ของบริษัทแห่งหนึ่งที่วิ่งสายเดียวกัน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและตามตัว และยังคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเผยแพร่ในโซเชี่ยล จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

รถตู้ตะลุมบอน-ผู้บริหาร 2 บริษัทจับมือขณะเข้าพบเจ้าหน้าที่

รถตู้ตะลุมบอน-ผู้บริหาร 2 บริษัทจับมือขณะเข้าพบเจ้าหน้าที่

รถตู้ตะลุมบอน / ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. นายเจนวิทย์ ปัญญาภู หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง พร้อมด้วย นางบุญรัตน์ คงช่วย สถานีเดินรถระยอง, นายธัชพล เอี่ยมงาม ปลัดฝ่ายความมั่งคงอำเภอเมืองระยอง และ น.ต.อภิชา ปล้องอ่อน ร้อยรักษาความสงบ กองทัพเรือ ค่ายมหาสุรสิงหนาท ได้เรียกตัวแทนบริษัทรถตู้ที่มีเรื่องกันทั้งสองฝ่าย โดยมี นายสิวเรศว์ เพ็ชรเมืองตาก จากบริษัท รถตู้ซีเค และ นายสุรศักดิ์ ทรงธรรม จากบริษัท รถตู้บีเอช มาร่วมสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

โดยทั้งสองเป็นผู้บริหารของทั่งสองฝ่ายต่างก็ยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากกรณีที่มีเรื่องระหองระแหงกันมานานแล้ว เกี่ยวกับการเรียกผู้โดยสาร จนนำมาสู่การทำร้ายร่างกายกัน ทั้งนี้ ผู้บริหารทั้งสองฝ่าาย ยืนยันว่า จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และจะมีการอบรมพนักงานให้เข้าใจ เพื่อจะได้ทำงานอยู่ร่วมกันในสถานที่เดียวกัน โดยต่างคนต่างทำหน้าที่ไป ไม่ให้มีการกระทบกระทั่งขึ้นอีก และขอรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเจนวิทย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้บริหารทั้งสองฝ่าย ต่างก็รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะนำเอาปัญหาไปแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ นับเป็นการก่อเหตุที่ทำให้ภาพลักษณ์ของ บขส.ระยอง เสื่อมเสีย ทางขนส่งจ.ระยอง จึงลงโทษ เปรียบเทียบปรับทั้งสองฝ่าย เป็นเงิน ฝ่ายละ 2,000 บาท โดยคาดโทษไว้

นายเจนวิทย์ กล่าวต่อว่า หากเกิดเหตุขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ทางขนส่งก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และหากเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ก็จะมีการลงโทษ พักใช้ใบอนุญาต และเพิกถอนการสัมปทานต่อไป โดยที่ทั้งสองฝ่ายก็รับปากไว้แล้วว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายก็ได้แสดงเจตนารมย์ในความปรองดองกัน ด้วยการจับมือเพื่อแสดงถึงความเป็นมิตรและเป็นการขอโทษซึ่งกันและกัน ส่วนกรณีที่ผู้ถูกทำร้ายร่างกายที่ทั้ง 3 คน ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองระยอง ก็ปล่อยให้ว่ากันไปตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีทำร้ายร่างกาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน