จับคาโรงพัก หนุ่มใหญ่ ข่มขืนลูกเลี้ยง ขู่ฆ่าทั้งแม่-ลูก พลาดเพราะพิรุธใบขับขี่

จับคาโรงพัก หนุ่มใหญ่ ข่มขืนลูกเลี้ยง ขู่ฆ่าทั้งแม่-ลูก พลาดเพราะพิรุธใบขับขี่ มาแจ้งความรถหายแต่กลับเปลี่ยนใจ ตร.เช็คประวัติเจอใช้อีกชื่อ แถมมีหมายจับติดตัว หนีคดีมา 10 ปี

ข่มขืนลูกเลี้ยง วันที่ 22 ต.ค. ที่ สน.ดอนเมือง พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป. ร่วมกับ พ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รองผกก.( สอบสวน) สน.ดอนเมือง รรท.ผกก.สน.ดอนเมือง, พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพานิช สว.สส.สน.ดอนเมือง, พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สว.กก.4 บก.ป., ร.ต.อ.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ รอง สว.กก.5 บก.ป. ช่วยราชการ กก.4 บก.ป., ร.ต.อ.ภาคิน ดอกไม้, ร.ต.อ.สุวิทย์ ดีพิจารย์ รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง, ด.ต.นิติธร ประชันกาญจนา ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป. และฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ร่วมกันจับกุม นายเข็มชาติ ศรีผ่องใส อายุ 61 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ จ.102/2551 ลงวันที่ 5 มี.ค.51 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราหญิงผู้อยู่ในความปกครองที่มิใช่ภรรยาโดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขื่นได้ จับกุมตัวได้บริเวณหน้า สน.ดอนเมือง

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากนางสาคร (ขอสงวนนามสกุล) ได้แจ้งความร้องทกุข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ว่า น.ส.อร (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ขณะนั้นอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว ถูกนายเข็มชาติ พ่อเลี้ยง ข่มขืนกระทำชำเราจำนวนหลายครั้ง เหตุเกิดที่บ้านพักใน ต.บ้านเกาะ อ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยประมาณเดือน มิ.ย.49 ขณะที่นางสาคร ออกไปทำธุระนอกบ้าน เหลือนายเข็มชาติ ซึ่งเป็นสามี และ น.ส.อร ลูกสาว อยู่กันตามลำพังภายในบ้าน นายเข็มชาติ ได้ออกอุบายให้ น.ส.อร ขึ้นไปเอาของภายในห้องนอน

ตำรวจคุมตัวนายเข็มชาติ มาสอบปากคำ

เมื่อ น.ส.อร เข้าไปในห้อง นายเข็มชาติได้มาปิดล็อกประตู และถือมีดไว้ในมือพร้อมข่มขู่ว่า “อย่าร้องถ้าร้องถ้าร้องมึงตาย แม่มึงก็ตายด้วย” ก่อนจะใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และข่มขู่ว่าไม่ให้บอกใครไม่งั้นตาย ซึ่ง น.ส.อร ถูกนายเข็มชาติ ข่มขืนมาโดยตลอด จนกระทั้งช่วงปี 50 นางสาคร สังเกตเห็น นายเข็มชาติ มีอาการหึงหวงลูกสาว จนเป็นที่น่าสงสัย จนเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงและได้เลิกรากันไป จากนั้นจึงได้สอบถาม น.ส.อร ก็รับว่าถูกนายเข็มชาติ ข่มขืนหลายครั้ง แต่ละครั้งจะไม่มีการป้องกันใดๆ และที่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวตกอยู่ในอันตราย ก่อนจะตัดสินใจเข้าแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา นายเข็มชาติ ได้เดินทางมายัง สน.ดอนเมือง เพื่อเข้าแจ้งความรถหาย เมื่อพนักงานสอบสวนถามหาบัตรประชาชนเพื่อนำมาประกอบการแจ้งความ กลับแสดงใบขับขี่แทน ซึ่งในใบขับขี่ระบุชื่อนายสุรเดช ศรีผ่องใส โดยนายเข็มชาติ อ้างว่าไม่เคยใช้บัตรประชาชน ใช้แต่ใบขับขี่ติดต่อราชการ จากนั้นได้แสดงความจำนงไม่ขอแจ้งความในวันนี้ และจะกลับมาแจ้งใหม่ในวันจันทร์ ( 22 ต.ค.) ซึ่งพบข้อพิรุธว่าทำไมไม่แจ้งทันที เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าใบขับขี่ที่นายเข็มชาติ นำมาแสดงระบุชื่อนายสุรเดช ศรีผ่องใส กับใบหน้าในบัตรไม่ตรงกัน อีกทั้งเลขบัตรประชาชน 13 หลักในใบขับขี่เป็นของนางฉลวย ศรีผ่องใส มารดา เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดจึงพบว่าภาพที่ปรากฎบนใบขับขี่คือนายเข็มชาติ และยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ยังให้การภาคเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุตามที่ถูกออกหมายจับ ในส่วนใบขับขี่ยืนยันว่าได้รับมาอย่างถูกต้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ทำบันทึกจับกุม พร้อมประสานตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนใบขับขี่เจ้าหน้าที่จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปอีกครั้ง หากพบว่าได้มาอย่างไม่ถูกต้อง หรือจงใจนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป