ประมาณ 22.30 น.ที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ คัมภีระ สวป. นายสุชาติ รัตนเรืองศรีผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่6 (สบทช.6) นายสมนึก บุญใหญ่ หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดพังงา และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ ร่วมตรวจยึดสัตว์ทะเลหวงห้ามหลายชนิดที่ถูกลักลอบขนส่งทางรถบัสโดยสารสายภูเก็ต-กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจสภ.ท่าฉัตรไชยได้ตรวจยึดได้ขณะรถโดยสารคันดังกล่าวกำลังเดินทางออกผ่านด่านตรวจเพื่อไปยังปลายทางกรุงเทพมหานคร โดยมีการบรรจุภายในกล่องโฟมขนาดใหญ่จำนวน 2 กล่อง ซุกซ่อนมาในห้องเก็บของ
ตรวจสอบเบื้องต้นภายในกล่องโฟมจำนวน 2 กล่องพบสัตว์ทะเลหวงห้ามจำนวนก 32 ตัว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ประกอบด้วย ปลาสวยงามคละชนิดจำนวน 9 ตัว กุ้งจำนวน 3 ตัว ปูเสฉวน/หอยไม่ทราบชนิดจำนวน 15 ตัว จึงเเจ้งลงบันทึกการตรวจยึดกับพนักงานสอบสวน ก่อนนำส่งมอบให้ผู้เชี่ยวชาญของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ตนำไปจำเเนกชนิดเเละทำการพักฟื้นก่อนทำการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชยกล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจได้ทำการสุ่มตรวจรถบัสโดยสารคันดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ที่ผ่านมา โดยมีการตรวจสอบภายในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถ เมื่อพบลังโฟมดังกล่าว จึงเปิดดูพบว่าภายในบรรจุ สัตว์ทะเลหลายชนิดซึ่งเชื่อว่าเป็นสัตว์หวงห้าม เมื่อสอบถามพนักงานบนรถทราบว่ากล่องดังกล่าวมีผู้นำมาฝากให้นำส่งปลายทางยังกรุงเทพมหานคร จึงแจ้งทำการตรวจยึดและแจ้งให้เจ้าหน้าที่สบทช.6 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ มาตรวจยึดเเละดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป หลังจากนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการสืบสวนที่มาที่ไปของกล่องพัสดุดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อหาตัวผู้ส่งและผู้รับ หากพบก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายสุชาติ รัตนเรืองศรีผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่6 กล่าวว่า หลังทำการตรวจยึดแล้วเจ้าหน้าที่จะมีการนำส่งมอบต่อให้กับผู้เชี่ยวชาญของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ตนำไปจำเเนกชนิด เนื่องจากสัตว์บางตัวเป็นสัตว์ทะเลหายาก มีชื่อเฉพาะ ก่อนจะทำการพักฟื้นในบ่ออนุบาลเพื่อให้แข็งแรงและทำการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งการตรวจยึดสัตว์ทะเลได้ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่จะสามารถนำกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อีกครั้ง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการกวดขันจับกลุ่มผู้กระทำผิดจากต้นทางคือในทะเลแต่โอกาสที่จะจับกุมนั้นทำได้ยากเนื่องจากผู้กระทำความผิดมักทิ้งหลักฐานลงในน้ำเมื่อเจ้าหน้าที่นำเรือเข้าตรวจสอบ
โดยสัตว์ทะเลเหล่านี้นับว่า มีความเกี่ยวพันกับความอุดมสมบูรณ์ของปะการังในท้องทะเล หากถูกจับขึ้นมาเป็นจำนวนมากจะส่งผลต่อความสมบูรณ์ของปะการังในระยะยาว
ส่วนมูลค่าของสัตว์ทะเลเหล่านี้นั้นเบื้องต้นหากคำนวนมูลค่าจากต้นทางน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทแต่ถ้าถึงปลายทางและมีการส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม อาจมีมูลค่าสูงถึง 50,000 บาท
อย่างไรก็ตามจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนหาที่มาที่ไปเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามประกาศของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป
