รองโฆษก ตร. เผยสาเหตุเบื้องต้น ปม 2 ผู้ต้องหาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ดับคาห้องขัง เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมรายงาน “บิ๊กแป๊ะ” และสถานทูตรับทราบแล้ว คาดทำสำนวนชันสูตรแล้วเสร็จภายใน 90 วัน ตามระเบียบ
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีผู้ต้องกัก 2 ราย ได้เสียชีวิตระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ว่าได้รับรายงานจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่า เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายต่างด้าวภายในสถานกักตัวคนต่างด้าว (ตม.) เพื่อรอการส่งกลับประเทศเดิม คือ 1.นายสาคี ไม่ทราบนามสกุล อายุ 55 ปี สัญชาติกัมพูชา และ 2.นายโรแบต ไม่ทราบนามสกุล อายุ 72 ปี สัญชาติเวียดนาม อ่านข่าว : เพื่อนร่วมห้องผวา! 2ผู้ต้องหาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ดับปริศนาคาห้องขัง
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า โดยพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย แพทย์นิติเวชย์โรงพยาบาลจุฬาฯ, พนักงานอัยการ, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพและทำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุประกอบคดี ทำแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป และ รายงานให้สถานทูตเอกอัครราชกัมพูชา และ เวียดนาม (ประจำประเทศไทย) รับทราบ พร้อมส่งศพไปชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายโดยละเอียดที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งเบื้องต้นแพทย์นิติเวช สันนิษฐานถึงสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายทั้ง 2 รายด้วยโรคชรา
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้ พนักงานสอบสวนจะทำสำนวนชันสูตรพลิกศพผู้ต้องหา กรณีที่ตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ซึ่งการชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตในระหว่างควบคุมของเจ้าหน้าที่นั้น พนักงานสอบสวนได้ร่วมกับพนักงานอัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง ในท้องที่ที่ศพ เป็นผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพ ตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนดแล้ว ส่วนระยะเวลาในการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพนั้น พนักงานอัยการร่วมกับพนักงานสอบสวน ทำสำนวนชันสูตรพลิกศพให้เสร็จภายใน 90 วัน
รอง โฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านกำชับให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานในการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพในระหว่างควบคุมของเจ้าหน้าที่ ด้วยความรอบคอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โปร่งใส และสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวในทุกมิติแก่พนักงานสอบสวน ดำเนินการบูรณาการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ มีความน่าเชื่อถือ
