เปิดใจ แม่ลูกถูก รถทัวร์ ขับเลยจุดหมายไม่ยอมบอก ปล่อยข้างทางตอนตี 2 เผยไม่ได้หวังเรียกร้องค่าเสียหาย จี้หน่วยงานปรับปรุงระบบขนส่งให้ดีกว่านี้ ระบุคิดภาพไม่ออกหากไม่มีสามีมารอรับ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pungpound Tana โพสต์เล่าเรื่องราวที่เจอรถทัวร์คันหนึ่งจอดเลยจุดที่ต้องลงไกลถึง 30 ก.ม. จนทำให้ต้องขอลงกลางทางในช่วงกลางดึก เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ขึ้นครั้งแรก ก็ประทับใจเลย เพิ่งเห็นข่าวรถทัวร์ โดยสารประจำทางปล่อยผู้โดยสารยายหลานลงข้างทาง ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง อ่านข่าว : รถทัวร์อีกแล้ว! แม่ลูกโวยขับเลยจุดหมายไกล 30 ก.ม. ต้องลงข้างทางตอนตี 2

น.ส.ชลรชา ทานา และสามี ที่ถูกทิ้งข้างทางตอนตี2 ที่จ.บุรีรัมย์

น.ส.ชลรชา ทานา และสามี ที่ถูกทิ้งข้างทางตอนตี2 ที่จ.บุรีรัมย์

รถทัวร์ / ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ น.ส.ชลรชา ทานา อายุ 35 ปี เจ้าของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pungpound Tana กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่าตนเป็นคนจ.กาฬสินธุ์ ส่วนสามีมีอาชีพเป็นกรรมการตัดสินวอลเลย์บอล ซึ่งได้เดินทางมาตัดสินวอลเลย์บอลชายหาดในการแข่งขัน “กีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แห่งประเทศไทยครั้งที่ 36” รอบคัดเลือกระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 20-29 ต.ค.นี้ ซึ่งได้จัดที่ อ.นางรอง

น.ส.ชลรชา กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับลูกชายวัย 8 ขวบ ได้เดินทางไปเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต โดยขากลับสามีบอกให้นั่งรถมาที่จ.บุรีรัมย์ เพราะจะตัดสินเป็นวันสุดท้ายและจะได้เดินทางกลับบ้านที่จ.กาฬสินด้วยกันพ่อแม่ลูก โดยตนได้สั่งจองตั๋วกับรถ “สมบัติทัวร์” เพื่อจะมาลงที่อ.นางรอง แต่คนขายตั๋วขอให้ซื้อตั๋วไปลง อ.ประโคนชัย ซึ่งห่างจากอ.นางรองประมาณ 30 กิโลเมตร ซื้อ 2 ที่นั่งรวมเป็นเงิน 600 บาท โดยได้แจ้งพนักงานรถตั้งแต่ก่อนขึ้นแล้วว่า ต้องการจะเดินทางไปลงที่หน้าโรงพยาบาลนางรอง ซึ่งพนักงานก็ตอบตกลง

รถทัวร์ที่ก่อเหตุทิ้งผู้โดยสารข้างทาง

รถทัวร์ที่ก่อเหตุทิ้งผู้โดยสารข้างทาง

น.ส.ชลรชา กล่าวอีกว่า โดยรถได้ออกจากชานชาลาเวลาประมาณ 22.00 น. แต่ตนไม่เคยมาจ.บุรีรัมย์มาก่อน จึงได้นัดให้สามีมารอรับที่หน้าโรงพยาบาลนางรอง ตามที่แจ้งกับพนักงานรถทัวร์ พร้อมกับตั้งระบบจีพีเอส หาระยะทางที่เหลือ ก่อนจะไลน์ไปบอกสามีว่าเหลืออีก 35 กิโลเมตร

“หลังจากนั้น ก็เคลิ้มหลับไป เพราะเพลียเนื่องจากลูกชายไม่สบาย และมาสะดุ้งตื่นอีกทีเห็นเป็นป้าย อ.นางรอง จึงลุกขึ้นเพื่อจะไปบอกพนักงานรถ แต่ไม่เห็นใครทั้งชั้นล่างและชั้นบน จึงตัดสินใจไปเคาะห้องคนขับรถ ก็พบว่าพนักงานรถนอนอยู่รวมกันทั้งหมด เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเลยที่จอดมาไกลกว่า 10 กิโลเมตร” น.ส.ชลรชา กล่าว

น.ส.ชลรชา กล่าวว่า จากนั้นคนขับรถได้ตกลงจะจอดข้างทาง แต่ตนบอกว่ามันดึกและเปลี่ยว จึงขอร้องให้ไปจอดปั๊มน้ำมัน แล้วคนขับก็ขับออกไปโดยไม่ได้รับคำขอโทษจากพนักงานแต่อย่างใด ก่อนจะแจ้งให้สามีมารับ อย่างไรก็ตาม การที่ตนออกมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้หวังจะเรียกร้องค่าเสียหาย แต่อยากให้มีการปรับปรุงระบบการขนส่งมวลชน ในด้านบริการและให้เข้าใจถึงความรู้สึกผู้โดยสาร โดยเฉพาะความปลอดภัย หากตนไม่มีสามีมารับยังคิดไม่ออกเลยว่าสองแม่ลูกจะอยู่กันอย่างไร

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน