เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหัวเข่า ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ดำรงชีวิตแบบพึ่งพาตนเองและสิ่งแวดล้อม หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าว ก็จะมีวิถีชีวิตในการดำรงชีพแบบอาศัยธรรมชาติใกล้ตัว เป็นแหล่งหาอาหารทั้งนำมาประกอบอาหารรับประทานในครัวเรือน และเหลือจากนั้นก็จะนำไปขาย มีรายได้พอเลี้ยงชีวิต อย่างเช่น นายพันธ์ มณี อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 3 บ้านหัวเข่า ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พร้อมภรรยา และเพื่อนบ้านเดียวกันอีก 4-5 คน ชักชวนกันออกหากบ เขียด ตามท้องทุ่งนา ที่ขุดรูทำหลุมอยู่ตามทุ่งนา ใต้กองฟางที่เกี่ยวข้าวแล้ว เพื่อนำมาประกอบเป็นอาหารบ้าง บางส่วนเก็บไว้ขายบ้าง

อุปกรณ์ที่นำไปหากบ เขียด ก็มีเคียวเกี่ยวข้าว เสียม ถุงตาข่าย พร้อมทั้งห่อข้าวและน้ำดื่มไปด้วย เมื่อยามที่หิวข้าวก็จะได้กินที่ทุ่งนาเลย ส่วนที่ต้องนำเคียวเกี่ยวข้าวไปด้วยเพราะจะสะดวกในการเขี่ยเกี่ยวฟางข้าวหากบหาเขียด เมื่อเจอรูกบ รูเขียด หากพบเป็นดินนูนๆชาวบ้านจะรู้เลยว่า มีกบอยู่ใต้ดินนูน เมื่อเปิดดินออกจะเห็นตัวกบซ่อนตัวอยู่หลุม หรือบางทีก็อยู่ในหลุมลึกลงไปเล็กน้อย ซึ่งกบจะทำดินปิดปากรูหลุมเอาไว้ ชาวบ้านในถิ่นชนบทจะรู้ดีในเรื่องนี้

ซึ่งการออกหากบหาเขียดบางวัน หากโชคดีหรือชาวบ้าน เรียกว่า “หมานๆ” หน่อยก็จะหากบได้ถึง 2-3 กิโลกรัม ก่อนนำมาประกอบอาหารคั่วแกง ผัดเผ็ด เป็นอาหารเลี้ยงสมาชิกในครัวเรือน และหากเหลือก็จะนำไปขายตามหมู่บ้าน กิโลกรัมละ 100 บาท จะขายดีมาก เพราะกบที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เมื่อนำมาประกอบอาหารจะมีรสชาติอร่อยกว่า กบ เลี้ยง ด้วยหัวอาหารทั่วไป ที่สำคัญทุกวันนี้กบตามธรรมชาติจะหากินได้ไม่ง่ายนัก ชาวบ้านบอกว่าที่พากันออกหากบหาเขียดมาขาย ก็พอได้เงินใช้ในครัวเรือน เล็กๆน้อยๆ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆไม่มีรายได้อะไรเลย ถือว่าใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน