ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีการแชร์คลิป ชายแต่งกายคล้ายทหาร(แบบครึ่งท่อน) เข้าไปทำร้ายชกต่อยชายหนุ่มในออฟฟิศแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.47 น. โดยในคลิปปรากฏภาพของชายแต่งกายคล้ายทหารคนดังกล่าว มาจอดรถเก๋งหน้าออฟฟิศแล้วใช้มือชกประตูไม้จนทะลุ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้น 2 แล้วพยายามไล่ชกต่อยพนักงานหนุ่มคนหนึ่ง แม้จะมีพนักงานชายอีก 3 คนและพนักงานหญิงคนหนึ่งคอยห้ามและฉุดกระชากไว้ แต่ชายคนดังกล่าวไม่หยุดกลับชกต่อยพนักงานชายทั้ง 3 คนด้วยอารมณ์ที่โกรธแค้น ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารมาคุมตัวชายที่แต่งกายคล้ายทหารคนดังกล่าวออกไป ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่าออฟฟิศที่เกิดเหตุ คือ บริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ถนนอินจันทร์ณรงค์ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และจากการสอบถามแหล่งข่าว ทราบว่าชายแต่งกายคล้ายทหารที่ปรากฏในคลิปเป็นทหารจริง คือ จ.ส.อ.วิทูรย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายสิบช่างอาวุธ สังกัดกองร้อยมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก โดยสาเหตุที่ก่อเหตุ เนื่องจาก จ.ส.อ.วิทูรย์ หึงหวง นางกัญญารัตน์ (สงวนนามสกุล) ภรรยา ซึ่งทำงานเป็นพนักงานในบริษัทสินเชื่อดังกล่าว โดยระแวงว่าภรรยา อาจจะมีกิ๊กกับพนักงานชายในที่ทำงานเดียวกัน
ซึ่งที่ผ่านมา จ.ส.ท.วิทูรย์ ก็เคยตามภรรยามาที่ทำงานและมีการทะเลาะตบตีกันในที่ทำงานหลายครั้ง ซึ่งนางกัญญารัตน์ ก็เคยไปแจ้งความ ที่ สภ.เมือง ด้วย ส่วนในวันเกิดเหตุ 5 ม.ค.60 จ.ส.อ.วิทูรย์ ได้ขับรถยนต์มาจอดรถซุ่มดูภรรยาที่หน้าบริษัท ก่อนจะพังประตูเข้าไปชกต่อยพนักงานในบริษัทตามที่ปรากฎในคลิป
ทั้งนี้ จากการโทรศัพท์ติดต่อสอบถาม จ.ส.อ.วิฑูรย์ ที่ปรากฏในคลิป ยอมรับว่าได้ก่อเหตุตามคลิปจริง เนื่องจากไม่พอใจที่พนักงานชายในบริษัทมาพูดจากหยอกล้อภรรยา ของตัวเองแบบถึงเนื้อถึงตัว ตนทำไปเพราะปกป้องศักดิ์ศรี แต่ตนก็ถูกพนักงานชายรุมทำร้ายบาดเจ็บที่แขนเช่นกัน แต่ภาพไม่ได้ปรากฎในคลิป ก็อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วย อย่างไรก็ตามหลังต้นสังกัดทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางผู้บังคับบัญชาก็ได้สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งลงโทษโดยเบื้องต้นได้กักบริเวณ เพื่อรอผลสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
