ด.ญ.ป. 2 ยังผวาหนัก ด.ช.9 ขวบ โบ้ยเพื่อนอีก 2 คนร่วมมือ ยังปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน!
จากกรณีเกิดเหตุการณ์ผู้ปกครองเด็กหญิง 8 ขวบ ชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความเอาผิดเด็กชายชั้น ป.3 โดยระบุว่า ก่อเหตุข่มขืนในห้องน้ำโรงเรียนในวันเปิดเทอมวันแรก ซึ่งตรวจร่างกายและพบว่ามีร่องรอยการถูกกระทำชำเราจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าจะก่อเหตุเพียงลำพังนั้น
ล่าสุดวันนี้ (31 ต.ค. 61) เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.แนงมุด เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีกับพ.ต.ท.สมบูรณ์ พรหมบุตร สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แนงมุด เจ้าของคดี พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญผู้ปกครองของเด็กชายวัย 9 ขวบ 3 คน ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.3 ชั้นเดียวกัน มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังเมื่อวานนี้เด็กหญิงวัย 8 ขวบคนดังกล่าวอ้างถึงชื่อนายบี (นามสมมติ) เป็นคนผลักเข้าห้องน้ำ ก่อนที่ชุดสืบสวนจะไปสอบถามเด็กที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
ในเบื้องต้นเด็กได้ให้การปฏิเสธ แต่มีการพูดปัดไปมา กล่าวอ้างถึงเพื่อนอีก 2 รายคือ นายซี และนายดี (นามสมมติ) จึงเชิญตัวผู้ปกครองทั้ง 3 คนมาสอบปากคำในวันนี้ ซึ่งพ่อแม่ก็ไม่ทราบว่าบุตรของตนเองกระทำหรือไม่เพราะเด็กชายทั้งหมดอาศัยอยู่กับญาติ พ่อแม่ต่างไปทำงานอยู่ต่างถิ่นและต่างจังหวัด เบื้องต้นเด็กๆ ทั้ง 3 คนให้การปฏิเสธ จึงได้ขอความร่วมมือจากครอบครัวของเด็กเพื่อความบริสุทธิ์ โดยการขอกางเกงในและชุดนักเรียนที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุส่งไปตรวจดีเอ็นเอ พร้อมกับชุดของเด็กหญิง ที่ จ.นครราชสีมา ต่อไป
สถานที่เกิดเหตุ
ขณะที่ ด.ญ.เอ วัย 8 ขวบ พร้อมผู้ปกครองได้เดินทางไปที่ ร.พ.สุรินทร์ เพื่อตรวจร่างกายอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ตรวจร่างกายที่ ร.พ.กาบเชิงแล้ว แพทย์ระบุว่า เยื่อพรหมจรรย์ยังไม่ฉีกขาด พบเพียงรองฟกช้ำ เนื้อเยื่อชั้นในของอวัยวะเพศจนทำให้บวมเท่านั้น ซึ่งอาจจะเกิดจากการถูกกระแทกอย่างแรง หรือ อาจถูกล่วงละเมิดก็เป็นไปได้ พร้อมกับพบนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์เพื่อดูแลสุขภาพจิตและเยียวยาจิตใจให้ดีขึ้น เพราะเด็กยังคงอยู่ในอาการหวาดผวา และร้องไห้เป็นระยะ
ระหว่างที่ จนท.สอบถาม และยังให้การวกไปวนมาอยู่ ซึ่งต้องรอให้เด็กมีอาการดีขึ้น จะได้มีการนัดหมาย อัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อสอบสวนอีกครั้ง ส่วนเด็กชายวัย 9 ขวบ อีก 3 ราย ก็จะให้สหวิชาชีพสอบสวนในรูปแบบเดียวกันอีกครั้ง ซึ่งเด็กทั้ง 3 คนก็ยังคงเดินทางไปโรงเรียนตามปกติ อย่างไรก็ตาม ต้องรอความเห็นและผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ ร.พ.สุรินทร์ อีกครั้ง
ด้านนางภานิชา อินทร์ช้าง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กล่าวว่า เขตเองไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีรองเขตเป็นประธาน ได้ลงพื้นที่ถามไถ่รายละเอียดเด็กนักเรียนชายทั้ง 3 คน และเด็กหญิง 1 คน
รวมถึง ผอ.โรงเรียน และคุณครู และก็ดูสถานที่ ห้องสมุด และพื้นที่ในโรงเรียน ก็ได้แนะนำในเรื่องของการบริหารจัดการ เวลาในเรื่องการทานอาหาร เดิมอนุบาลทานข้าวเวลา 11.30 น. ประถมและมัธยมทานพร้อมกันคือเวลา 12.00 น. ก็เสนอให้อนุบาลกับประถมทานข้าวพร้อมกันเวลา 11.30 น. และเข้าเรียนเที่ยงครึ่ง
ส่วนมัธยมทานข้าวเวลาเที่ยงครึ่ง เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอ ส่วนการเดินไปทานข้าวให้เดินเป็นแถว ตรวจนับจำนวนเด็กนักเรียนว่ามีกี่คน โดยมีหัวหน้าชั้นเดินหน้า ครูประจำชั้นปิดท้าย ครูก็จะทานข้าวในโรงอาหารพร้อมเด็กนักเรียน ให้ตรวจตราดูแลช่วงว่างในช่วงพักทานข้าวตอนเที่ยงที่ครูต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และอีกประเด็นคือให้ตั้งกรรมการนักเรียน สภานักเรียน และตั้งเวร คอยตรวจดูบริเวณที่เป็นมุมอับ มุมลับตา ปรับภูมิทัศน์ให้โล่ง
โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้ง ผอ.และครูที่โรงเรียนต่างตกใจ ตนจึงให้ตั้งสติและให้กำลังใจ ส่วนกระบวนการสอบสวนของ จนท.ตำรวจก็ดำเนินการไปตามเส้นทาง ส่วน จนท.พมจ. นักจิตวิทยาก็ดำเนินตามเส้นทาง ส่วนของเราในเรื่องสอบสวนข้อเท็จจริงและการดำเนินการบริหารจัดการว่าเป็นไปได้อย่างไร มีช่องว่างตรงไหน อย่างไร เพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น
อาจเป็นเคสตัวอย่างที่ต้องเฝ้าระมัดระวังให้กับโรงเรียนต่างๆ ต่อไป ซึ่งตนก็เสียใจไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ส่วนเด็กหญิงนักเรียน เราก็จะเยียวยาในเรื่องของสุขภาพจิตให้อย่างดีที่สุด ซึ่งผู้ปกครองก็เข้าใจ
โดยผู้ปกครองมีความประสงค์ และยินดีที่จะย้ายเด็กหญิงไปเรียนที่อื่นแทน ส่วนเด็กชายทั้ง 3 คนก็ไปเรียนตามปกติ ซึ่งเขาไม่รับและบอกไม่ได้ทำทั้ง 3 ราย ก็เลยจะดูในเรื่องสหวิชาชีพเฉพาะทางว่าเด็กในวัยขนาดนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งทั้ง 3 รายเรียนอยู่ชั้น ป.3 มีจำนวน 2 รายอยู่ห้องเดียวกันและอีกรายอยู่คนละห้อง และขอเวลา 3-5 วันให้คณะกรรมการได้ทำงานจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้
ไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญ แอดไลน์ข่าวสด คลิก!
