บอม หลบมุม รอดข้อหาทารุณสัตว์ โต้ข่มขืนหมา อ้างแค่หาคลิปมาขายกลุ่มลับ!

บอม หลบมุม – จากกรณี วอตช์ด็อก ไทยแลนด์ ได้นำหลักฐานที่หนุ่มคนหนึ่งได้เปิดกลุ่มในโซเชียลเรียกเก็บเงินค่าสมาชิก และเผยแพร่คลิป กระทำทารุณสุนัขด้วยการมีเพศสัมพันธ์ จำนวนหลายคลิปด้วยกัน โดยมีพฤติกรรมต่อเนื่องยาวนานมาร่วมปีแล้ว โดยต่อมาสืบทราบว่า สืบทราบว่า ผู้เผยแพร่คลิป คือ นายดำรงพล สานเมือง อายุ 53 ปี อยู่บ้านพักแห่งหนึ่งในตำบลไชยสถาน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

อ่าน ร้องล่า แก๊งโบโบ้ สันกำแพง วิตถาร จับหมาข่มขืน ถ่ายคลิป เก็บค่าสมาชิกเข้ากลุ่ม!

พร้อมกันนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่านำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งการทารุณกรรมสัตว์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14

ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ต.ค.61 ที่บ้านในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ นายดำรงพล สานเมือง อายุ 53 ปี ซึ่งใช้ชื่อในโซเชียลว่า “บอม หลบมุม” เปิดเผยว่า เบื้องต้นยอมรับว่าตัวเองเคยถ่ายภาพและคลิปในลักษณะที่ดูเหมือนมีเพศสัมพันธ์กับสุนัขจริง เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ด้วยความคึกคะนองและนำไปอวดกันในกลุ่มเพื่อนฝูงที่เป็นเกย์เหมือนกันเท่านั้น

อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ตัวเองไม่เคยมีพฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์กับสุนัขและไม่มีพฤติกรรมสัตว์ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ที่จัดหาคลิปลักษณะดังกล่าวนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียที่มีการตั้งกลุ่มเฉพาะคนที่เป็นเกย์เหมือนกันและต้องการชมคลิปลักษณะดังกล่าว

โดยที่ตัวเองเก็บค่าสมาชิกเท่านั้นเพื่อเป็นค่าเสียเวลาในการจัดหารวบรวมคลิปที่มีการเผยแพร่อยู่แล้วจากโซเชียลมาให้สมาชิก ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เชื่อว่าตัวเองอาจจะถูกกลั่นแกล้งจากบางคนนำภาพและคลิปที่ตัวเองเคยถ่าย รวมทั้งคลิปที่ไม่ใช่ตัวเองมาใช้เป็นหลักฐานกล่าวหาให้ร้าย

ส่วนที่ทางเจ้าหน้าที่และองค์คุ้มครองสิทธิสัตว์ บุกเข้าตรวจค้นบ้านตัวเองวานนี้ (30 ต.ค.61) ทั้งๆ ที่ไม่มีหมายตรวจค้นแต่ตัวเองก็ยินยอมให้เข้าตรวจค้น และยินยอมเดินทางไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจภูธรสารภี ด้วยดี พร้อมให้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไว้ตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย
เนื่องจากเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเอง

บอม หลบมุม

โดยได้โดนถูกสอบปากคำอยู่ที่สถานีตำรวจ รวมทั้งถอดเสื้อผ้าให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจรูปพรรณตำหนิทั่วร่างกายว่าตรงกับคนที่ปรากฏในคลิปหรือไม่จนถึงประมาณเที่ยงคืน ซึ่งพบว่าไม่ตรงกัน เพราะคนในคลิปมีรอยสักขนาดใหญ่ที่หน้าท้อง แต่ตัวเองไม่มี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งการทารุณกรรมสัตว์ เท่านั้น เนื่องจากในคอมพิวเตอร์ของตัวเองมีคลิปลามกและคลิปคนมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ แต่ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์แต่อย่างใด เพราะไม่มีพยานหลักฐานที่จะเอาผิดในเรื่องการทารุณกรรมสัตว์ จากนั้นได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน และเตรียมต่อสู้คดีความกันตามกฎหมายต่อไป

นายดำรงพล บอกว่า อยากจะร้องขอความเป็นธรรมให้ตัวเองบ้าง เพราะมีการนำเสนอข่าวออกไปอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียที่ประณามตัวเองอย่างรุนแรง รวมทั้งลามปามไปถึงการด่าทอครอบครัว ทั้งๆ ที่ไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งตัวเองยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่ยืนยันว่าไม่มีพฤติกรรมทารุณกรรมสัตว์หรือชำเราสัตว์

รวมทั้งที่บ้านของตัวเองที่มีการเปิดเป็นร้านอาหารเล็กๆ ก็ไม่ได้มีการเปิดเป็นที่นัดพบชุมนุมรวมตัวกันของคนที่จะชำเราสุนัขตามที่ถูกกล่าวหาด้วย ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับทางผู้ที่กล่าวหาตัวเองหรือไม่หากพิสูจน์แล้วว่าไม่มีความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวนั้น คงจะไม่ดำเนินการ เพราะเสียเวลาและไม่ทุนทรัพย์มากพอที่จะดำเนินการ เพียงแต่อยากร้องขอความเห็นใจและเข้าใจกันบ้าง

ขณะที่ยายคำ (นามสมมติ) อายุ 82 ปี แม่ของนายดำรงพล เปิดเผยว่า ตัวเองอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับลูกชายเพียงสองคน โดยที่นายดำรงพล เป็นคนเลี้ยงดูตัวเองที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงและมีโรคประจำตัวของคนแก่ เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.61) ที่เจ้าหน้าที่นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นบ้านและนำตัวลูกชายไปสถานีตำรวจนั้น ตัวเองรู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะทั้งชีวิตไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน

โดยยอมรับว่าลูกชายเป็นเกย์ แต่ยืนยันว่าลูกชายไม่มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเมื่อวานนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับตั้งแต่ที่ลูกชายถูกนำตัวไปสถานีตำรวจจนกระทั่งกลับมาบ้านหลังเที่ยงคืน จึงรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของลูกชาย พร้อมให้กระบวนการตามกฎหมายพิสูจน์

นอกจากนี้นางพวง (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่และตัวแทนองค์กรคุ้มครองสิทธิสัตว์บุกเข้าตรวจค้นบ้านและนำตัวนายดำรงพล ไปสถานีตำรวจ โดยกล่าวหาว่าทารุณกรรมสุนัขด้วยการกระทำชำเราและถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่ ซึ่งในฐานะเพื่อนบ้านที่รู้จักและเห็นนายดำรงพลมาตั้งแต่เป็นเด็กด้วยกัน ทราบดีว่านายดำรงพลเป็นเกย์ แต่เชื่อมั่นว่าไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้นอย่างแน่นอน

ขณะที่บ้านพักของนายดำรงพลที่อยู่อาศัยกับแม่ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นแหล่งนัดพบรวมตัวกันเพื่อกระทำชำเราสุนัขนั้น ก็ไม่เป็นความจริง โดยเพื่อนบ้านที่อยู่ล้อมรอบต่างเป็นพยานยืนยันให้ได้ ว่าเป็นเพียงร้านอาหารที่เปิดขายเล็กๆ น้อยๆ และอาจจะในใช้เป็นที่พบปะสังสรรค์ของเพื่อนฝูงและเครือญาติ แต่ไม่มีการกระทำลักษณะตามที่ถูกกล่าวหา จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับนายดำรงพล ด้วย

ด้านนายอาคม กันธะวิลา อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่ง ที่มีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร เปิดเผยว่า วานนี้(31 ต.ค.61) ที่ทางเจ้าหน้าที่ และตัวแทนองค์กรคุ้มครองสิทธิสัตว์ เข้าตรวจค้นบ้านนายดำรงพล ระหว่างนั้นได้มาถ่ายภาพสุนัขที่ตัวเองเลี้ยงไว้ในบริเวณบ้าน จากนั้นปรากฏว่ามีการไปนำเสนอข่าวว่าสุนัขของตัวเองเป็นตัวที่ถูกนายดำรงพล กระทำชำเราตามที่ปรากฏในคลิป

ซึ่งขอยืนยันว่าสุนัขของตัวเองไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เลย และไม่ใช่ตัวเดียวกันกับที่ปรากฏในคลิปอย่างแน่นอน นอกจากนี้เชื่อมั่นด้วยว่าแม้ว่านายดำรงพลจะเป็นเกย์ แต่ไม่มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา โดยคนในหมู่บ้านต่างให้กำลังใจนายดำรงพล ในเรื่องนี้.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน