พ่อแม่ ‘บูม จิรัชพิสิษฐ์’ ปฏิเสธร่วมกันฟอกเงิน ยันรายได้มาจากธุรกิจครอบครัว

พ่อแม่ ‘บูม-ปริญญา’ จารวิจิต เข้ารับทราบข้อหาร่วมกันฟอกเงินบิตคอยน์ แต่ให้การปฏิเสธ ยันเงินเข้าบัญชีมาจากธุรกิจครอบครัว ขอกลับไปรวบรวมหลักฐานเส้นทางการเงินของครอบครัวมามอบให้ตร.อีกครั้ง

บูม จิรัชพิสิษฐ์ / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่กองปราบปราม นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ ‘บูม บิทคอยน์’ ดารานักแสดง พานายวิสิทธิ์ และนางเลิศฉัตรกมล จารวิจิต พ่อและแม่เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก.สอบสวน กก.1 บก.ป. ตามกำหนดหมายเรียก

• อ่านข่าว ‘บูม จิรัชพิสิษฐ์’ โผล่รับทราบข้อกล่าวหา ปัดมีเอี่ยวพี่ชายโกงบิตคอยน์ 797 ล้าน
• อ่านข่าว “บูม” สิ้นท่า เหยื่อฝรั่งสูญบิตคอยน์ แฉร่วมมือกับ “พี่-น้อง” สั่งล่าต่อบิ๊กตลาดหุ้น
• อ่านข่าว มาตามนัด! พ่อ-แม่ ‘บูม’นายแบบ พบกองปราบแล้ว ปมเงินตุ๋นบิตคอยน์เข้าบช. 90ล.

เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” หลังพบว่านายปริญญา จารวิจิต ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ และเป็นลูกชายคนโตของทั้ง 2 คนได้โอนเงินจำนวนรวม 90 ล้านบาท ให้กับทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงนายเออาร์นี ออตตาวา ซาอ์ริมาอ์ นักลงทุนสัญชาติฟินแลนด์ รวม 797 ล้านบาท

นายจิรัชพิสิษฐ์ เปิดเผยว่า ทางพ่อแม่ของตนให้การปฏิเสธข้อกล่าว และยืนยันว่าเงินที่ถูกโอนเข้ามายังบัญชีพ่อและแม่ของตนนั้น เป็นเงินจากการประกอบธุรกิจของครอบครัว ไม่ใช่เงินของผู้เสียหาย ซึ่งในวันนี้พ่อและแม่ของตนก็นำหลักฐานเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินของครอบครัวในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงที่ไปที่มาของเงินดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร กล่าวว่า ทั้ง 2 คน ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยทางด้าน นายวิสิทธิ์และนางเลิศฉัตรกมล ขอกลับไปรวบรวมหลักฐานเส้นทางการเงินต่างๆ ของทางครอบครัวมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ไปที่มาของเงิน ที่นายปริญญาลูกชายโอนเข้ามาให้ โดยจะนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนอีกครั้งภายในไม่เกินระยะเวลา 15 วัน หลังจากนี้

ด้าน พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับทางนายวิสิทธิ์และนางเลิศฉัตรกมล ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน พร้อมกับชี้แจงที่ไปที่มาของการเชิญตัวทั้ง 2 คนมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทั้ง 2 ก็ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ด้านนายวิสิทธิ์และนางเลิศฉัตรกมล ขอกลับไปรวบรวมหลักฐานเส้นทางการเงินต่างๆของทางครอบครัวมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ไปที่มาของเงินที่นายปริญญา ลูกชายโอนเข้ามาให้ โดยจะนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนอีกครั้งภายในไม่เกินระยะเวลา 15 วันหลังจากนี้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่