คนสนิท หลวงปู่ลี เผยท่านขอละสังขาร ไม่อยู่เท่าอายุ “หลวงตาบัว” ขนลุกนกยูง-อีกา ร้องก้องวัดจนท่านสิ้นลม เผยหลวงปู่ปฎิเสธการรักษามาตลอด พุทธศาสนิกชนยังแห่มาร่วมรดน้ำศพแน่นวัด
หลวงปู่ลี จากกรณี หลวงปู่ลี กุสลธโร ประธานสงฆ์วัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดป่าภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พระอริยสาวกแห่งภูผาแดง พระเกจิสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และเป็นศิษย์เอกของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ละสรีระสังขาร เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ ได้ประกาศให้สาธุชนทราบ ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่ายังคงมีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาที่วัด เพื่อขอรดน้ำที่พานดอกบัวที่ทางคณะกรรมการได้โยงสายภูษามาจากสรีระของหลวงปู่ลีในหีบทอง ขณะเดียวกันคณะกรรมการก็ได้จัดเตรียมเมรุ จนเสร็จไปได้ในระดับหนึ่ง ยังคงเหลือแต่การตกแต่งรอบๆ ตัวเมรุเท่านั้น
พระอุทาน จารุธมฺโม พระลูกศิษย์คนสนิทและผู้ดูแล “หลวงปู่ลี” มาตลอด และ “หลวงปู่ลี” ให้เป็นพยานลงลายมือในพินัยกรรมด้วย โดยเปิดเผยถึงการเตรียมงานว่า หลังจากที่หลวงปู่ได้อาพาธตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.61 เป็นต้นมา ขณะดูแลท่านอยู่ท่านได้พูดจาปราศรัยกับศิษยานุศิษย์ทุกคนด้วยดี แต่เนื่องจากท่านเป็นพระวัดป่า ท่านรู้ตัวของท่านดี ว่าอาการเป็นอย่างไร ธรรมดาท่านเป็นคนที่ไม่ชอบพิธีรีตองอะไรมากนัก ชอบอยู่แบบเรียบง่าย หลังจากที่ท่านได้อาพาธแล้ว ท่านได้ปฏิเสธที่จะไปเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาล ถึงแม้ว่าหมอจากโรงพยาบาลอุดรธานี จะมาพูดจาอย่างไรท่านก็ปฏิเสธมาตลอด จนต้องสร้างห้องปลอดเชื้อให้ท่านที่วัด และก็มีการมาเจาะเลือดหลายครั้ง พร้อมนำอุจาระ-ปัสสาวะไปตรวจ แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ จนสุดท้ายอาตมาจึงไม่ยอมให้เจาะอีกสงสารท่าน
พระอุทาน กล่าวต่อไปว่า จนถึงวันที่ 22 ก.พ. ท่านก็ได้พูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าจะไม่พูดจากับใครอีกเลย และก่อนนั้นท่านได้กล่าวไว้เหมือนกับที่ท่านรู้ว่า ท่านได้กำหนดอายุไขของท่านไว้แล้ว โดยกล่าวกับอาตมาว่า “อาตมาจะไม่เอาอายุเท่ากับอายุของครูบาหลวงตามหาบัว ซึ่งหลวงตามหาบัวนั้นอายุ 98 ปี อาตมาก็ขออยู่ที่อายุเท่านี้ 96 ปี เท่านั้นพอแล้ว ขอให้ทุกคนได้ปฏิบัติทำทุกอย่างตามพินัยกรรมที่เขียนไว้ เงินที่ญาติมาบริจาคให้ลงที่เจดีย์และที่วัดทั้งหมด งานศพให้เอาไว้เพียง 7 วันพอ จากนั้นก็ให้เผาเลย ให้ทำแบบง่าย ๆ ไม่ต้องมีพิธีอะไรยุ่งยากมากนัก”
พระอุทาน กล่าวต่ออีกว่า จนถึงวันที่ 3 พ.ย. ก่อนที่หลวงปู่จะละสังขาร หมอก็ได้มาเอกซเรย์ดูแล้วบอกศิษย์ทุกคนว่าตอนนี้ทั้งตับ ไต ไม่ทำงานแล้วเหลือแต่หัวใจเท่านั้นที่ยังทำงานอยู่ หลังจากนั้นท่านก็หายใจผ่อนลงช้าๆ จนจากไปอย่างสงบ ท่ามกลางศิษย์ที่มาเฝ้าอยู่เต็มวัด
“เมื่อหลวงปู่ละสังขารแล้ว ศิษย์ก็ต้องปฏิบัติตามที่หลวงปู่สั่งไว้ และในวัดนี้ก็มีสัตว์ป่ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งเก้ง งูเหลือม อีกา นกยูง นกต่างๆ และสัตว์อื่นๆ อีก โดยเฉพาะนกยูงนั้นมีมากหลายร้อยตัว จากสัตว์ป่าตอนนี้กลับมาเชื่องมากแล้ว พากันมากินอาหารที่พระท่านและญาติโยนโปรยให้กินทุกวัน โดยเฉพาะตัวที่เป็นหัวหน้านกยูงนั้นจะมากินดอกทานตะวันที่กุฏิหลวงปู่ และนอนอยู่ที่คานข้างกุฏิทุกวัน ก่อนจะบินไปหากินที่อื่น ที่แปลกมากคือก่อนหน้าที่หลวงปู่จะละสังขาร 2–3 วัน พวกอีกา และนกยูง จะพากันส่งเสียงร้องจนก้องวัดไปหมด และร้องอยู่จนถึงหลวงปู่ละสังขารไปแล้ว จึงได้พากันหยุดร้องเหมือนกับมันร้องเหมือนพวกเราสูญเสียพ่อแม่ไปเช่นกัน” พระอุทาน กล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ขณะที่พระอัคคัญญู โชติปญโญ พระลูกวัดป่าภูผาแดง ผู้รับผิดชอบในการดูแลความเรียบร้อยของวัด ได้กล่าวว่า ได้รับผิดชอบจากคณะกรรมการจัดงานในครั้งนี้ให้ดูแลความเรียบร้อยในวัดในครั้งนี้ทั้งหมด สำหรับเงินที่ญาติโยมมาบริจาคนั้นให้บริจาคที่ตู้รับบริจาคที่กุฏิท่าน หรือที่ธนาคารตามที่ได้ประกาศไว้เท่านั้นรับรองได้ว่าทุกบาททุกสตางค์จะเข้าที่เจดีย์และบำรุงวัดทั้งหมด ไม่มีรั่วไหลไปไหน สำหรับในส่วนของเจดีย์ในขณะนี้ตัวโครงสร้างทั้งหมดได้เสร็จแล้ว ยังคงเหลือแต่ยอดเจดีย์ที่เป็นโลหะมาสวมใส่ และยอดเจดีย์ทำด้วยโลหะอย่างดี แล้วฉาบด้วยทองคำที่ตีเป็นแผ่นบาง ๆ มาฉาบเดิมทางกรรมการคิดว่าใช้ทองคำประมาณ 100 กก. แต่ขณะนี้ยอดบริจาคได้ 200 กก.เศษแล้ว มีคนบริจาคเข้ามาทุกวัน เจดีย์นี้ ท่านหลวงปู่ลี สร้างถวายหลวงตามหาบัว ยังไม่มีชื่อเจดีย์
