เตือนปั้มน้ำมัน ระวังหญิงสาวขับเก๋ง สั่งเติมน้ำมันเต็มถัง ก่อนเบี้ยวซิ่งรถหนี

เตือนปั้มน้ำมัน ระวังหญิงสาวขับเก๋ง สั่งเติมน้ำมันเต็มถัง ก่อนเบี้ยวซิ่งรถหนี เจ้าของขับรถไล่ตามร่วม 30 ก.ม. สุดท้ายคลาดกัน เหตุเกิดที่กระบี่ เผยโดนเป็นครั้งที่สองแล้ว เชื่อจงใจ เพราะไม่ติดป้ายทะเบียนหลัง

เตือนปั้มน้ำมัน /เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก เจ้าของปั้มน้ำมันเอสโซ่(สนวนชื่อ นามสกุล) ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ว่าถูกคนร้ายเป็นหญิง เบี้ยวค่าน้ำมัน พร้อมเผยคลิปนาทีคนร้าย เป็นหญิงอายุประมาณ 30-35 ปี ขับรถเก๋ง โตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน มาสั่งเติมน้ำมันเต็มถัง

เมื่อพนักงานเติมน้ำมันให้เสร็จเรียบร้อย เป็นเงิน 840 บาท ก็ปิดฝาถังน้ำมัน แล้วหยิบหัวจ่ายน้ำมันออกมา เพื่อจะเดินไปเก็บเงิน แต่รถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว พนักงานก็ได้เป่านกหวีดเพื่อเรียกกลับมา เพราะคิดว่าเขาอาจจะลืม แต่ปรากฎว่าหญิงสาวคนดังกล่าว รีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็วดูแล้วว่าน่าจะจงใจมากกว่า

ทางพนักงานแจ้งเจ้าของปั้มทราบ และได้ขับรถไล่ตามแต่ไม่ทัน คนร้ายได้ขับรถหนีหายไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ไพโรจน์ ชนะชัย สว.(สอบสวน) สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งตำรวจ สภ.เหนือคลอง เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของปั้ม และตามเส้นทางหลบหนี เพื่อติดตามคนร้ายมำเนินคดีต่อไป

ขณะที่ น.ส.ฤทัยรัตน์ แทบทับ อายุ 32 ปี พนักงานเติมน้ำมัน เล่าเหตุการณ์ว่า คืนที่เกิดเหตุ ตนและพนักงานภายในปั้มรวม 3 คน กำลังให้บริการลูกค้า มีรถคันเกิดเหตุ ขับเข้ามาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 โดยแจ้งเติมเต็มถัง พนักงานเติมให้จนเต็ม เป็นเงิน 840 บาท

ขณะปิดฝาถังน้ำมันเสร็จ ปรากฎว่ารถคันดังกล่าว ขับหนีออกไปทันทีโดยไม่ยอมจ่ายเงิน ตนจึงแจ้งให้เจ้าของปั้มทราบ จากนั้นเจ้าของรีบขับรถไล่ตามไป ระยะทางกว่า 30 ก.ม. ก่อนจะคลาดกันในพื้นที่ ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว เกรงเกิดอันตราย เจ้าของปั้มจึงเลิกติดตาม โดยเบื้องต้นทราบว่าน่าจะมุ่งหน้าไปทาง อ.ลำทับ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุสกัดจับ แต่ไม่พบรถคันดังกล่าว

เหตุการณ์ทำนองนี้ เคยเกิดขึ้นที่ปั้มแห่งเดียวกันมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา เป็นรถเก๋งสีขาว เข้ามาในลักษณะไม่ปิดป้ายทะเบียนเช่นกัน ครั้งแรกเติมน้ำมันไป 1,000 บาท โดยสาเหตุที่คนร้ายเลือกก่อเหตุในปั้มของตน น่าจะเป็นเพราะอยู่ในจุดเปลี่ยว และการจราจรไม่แออัด

หลังก่อเหตุสามารถขับรถหนีได้ทันที แต่ครั้งแรกที่เกิดเหตุทางปั้มไม่ได้แจ้งความไว้ จนกระทั่งเจอเหตุครั้งนี้ เป็นครั้งที่2 เชื่อเป็นการจงใจ เพราะรถที่ก่อเหตุไม่ติดป้ายทะเบียน ที่จึงต้องเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้าย ไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำกับปั้มอื่นๆต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่